คุณ วิคกี โลวิง อดีตเจ้าของที่มีจระเข้ กล่าวว่าจระเข้ที่เป็นสัตว์เลี้ยงที่ดี สามารถคลายเหงาให้คุณอย่างน่าประหลาดใจได้ หากเจ้าของมีการจัดหาแหล่งที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมให้กับพวกมัน
ตอนที่คุณ โลวิง รับเลี้ยงจระเข้ครั้งแรกนั้น สมัยนั้นยังไม่ค่อยมีใครรู้ว่าจะเลี้ยงจระเข้เป็นสัตว์เลี้ยงได้อย่างไร คุณ โลวิง ซึ่งอาศัยอยู่ในชานเมืองด้านตะวันตกของเมลเบิร์นบอกกับสำนักข่าวเอสบีเอสว่า
“ส่วนใหญ่เป็นการใช้สามัญสำนึกและประสบการณ์”
มีเพียง 2 รัฐในออสเตรเลียเท่านั้นที่สามารถเลี้ยงจระเข้อย่างถูกกฎหมายได้ นั่นคือรัฐวิกตอเรียและนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี แม้ว่ารัฐบาลวิกตอเรียจะแนะนำว่า "ประชาชนสามารถเลี้ยงจระเข้ที่มีความยาวไม่เกิน 2.5 เมตรเท่านั้น"
คุณ โลวิง เปิดเผยว่า
“ตอนนั้นฉันไม่มีการจัดการที่เหมาะสม ปกติจระเข้ก็จะเดินไปรอบๆ บ้าน ดังนั้นมันจึงถูกเก็บไว้ในบ้าน เราจึงความผูกพันกับเขามาก”
แต่เธอเตือนว่าการเลี้ยงจระเข้สัตว์เลี้ยงไม่ได้ดูแลง่ายเหมือนแมวหรือสุนัข
“คุณต้องใส่ใจกับอาหารของพวกเขา พวกเขาต้องได้รับแสงแดด วิตามินดี และมีการควบคุมอุณหภูมิประมาณ 30 องศาตลอดทั้งปี” เธอกล่าว
“พวกเขาชอบน้ำมาก ฉันเลยสร้างบ่อน้ำขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ฉันสังเกตเห็นว่าผู้คนจำนวนมากละเลยในการจัดหาพื้นที่ที่พวกเขาสามารถเดินไปรอบๆ เพราะว่าพวกเขาเป็นสัตว์หากินในเวลากลางคืน พวกเขาชอบเดินในพื้นที่กว้างๆ”
“ตอนนั้นจระเข้ของฉันมีอิสระที่จะเดินไปรอบๆ ในบริเวณบ้านและสวน ฉันสังเกตว่าพวกมันเคลื่อนไหวบ่อย โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ดังนั้นพวกมันจึงต้องการพื้นที่กว้างๆ”
“ยิ่งคุณเลี้ยงพวกมันนานเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งเห็นว่าพวกมันฉลาดแค่ไหน ซึ่งจะทำให้คุณประหลาดใจ”
คุณ โลวิง ยังเปิดเผยอีกว่า
“จระเข้เรียนรู้ได้เร็วพอสมควร และมีความจำที่ดี … พวกมันสามารถแสดงความรักและความผูกพันได้ในระดับหนึ่ง”
พวกมันไม่ใช่สัตว์น่ากลัวและเป็นสัตว์ที่งับคน กัดคนอย่างที่เห็นในธรรมชาติ พวกมันสามารถเป็นสัตว์เลี้ยงได้คุณ วิคกี โลวิง อดีตเจ้าของจระเข้
อย่างไรก็ตาม คุณ โลวิง เตือนว่าอย่าประมาทแม้แต่จระเข้ที่เลี้ยงในบ้านก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้
“แน่นอนว่า [คุณ] ต้องระวังพวกเขาอยู่เสมอ” เธอกล่าว
“พวกมันเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบ”
เธอกล่าวด้วยเหตุนี้ การสร้างกรงจระเข้จึงจะต้องกันขโมยได้ เว้นแต่เจ้าของต้องการอธิบายให้ตำรวจฟังว่าทำไมคนที่พยายามลักพาตัวพวกมันจึงไปอยู่ในท้องสัตว์เลี้ยงของพวกเขาแทน
ข้อห้ามและผลที่ตามมา
ในปัจจุบัน คุณ โลวิง ไม่ได้เลี้ยงจระเข้อยู่ที่บ้านแล้ว เพราะว่าเมื่อหลายปีก่อนเธอได้ส่งสัตว์เลี้ยงตัวสุดท้ายของเธอไปที่นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี
แม้จะมีความซับซ้อนและความเสี่ยง แต่การเลี้ยงจระเข้ยังคงได้รับความนิยม
เมื่อรัฐบาลแรงงานในขณะนั้นประกาศหยุดออกใบอนุญาตใหม่สำหรับการเลี้ยงจระเข้ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อถกเถียงและกลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการเลือกตั้งในเดือนสิงหาคม
กลุ่มผู้สนับสนุนสัตว์บางกลุ่มสนับสนุนการออกข้อห้ามดังกล่าว
คุณ โอลิเวีย ชาร์ลตัน จากองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) บอกกับสำนักข่าวบีบีซีเมื่อเดือนสิงหาคมว่ามันไม่ใช่ธรรมชาติของจระเข้ที่ต้องถูกกักขัง
“การจำลองพื้นที่และจำกัดอิสรภาพของจระเข้เหล่านี้ ไม่ใช่การอยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกมันมีอายุได้ถึง 70 ปี
ส่วนคุณ ชาล์ส กิเลียม จาก Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals ในนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี กล่าวว่า เป็นเรื่องยากสำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะดูแลจระเข้สัตว์เลี้ยงให้อยู่ในสภาพแวดล้อมและได้รับการดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสม
ด้านพรรคร่วมประกาศว่าหากพรรคชนะการเลือกตั้งระดับของประเทศในปีหน้า พวกเขาจะออกกฎให้ประชาชนสามารถขอใบอนุญาตในการเลี้ยงจระเข้ได้อีกครั้ง
รัฐมนตรีกระทรวงอุทยานและสัตว์ป่าของนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี มารี-แคลร์ บูทบี กล่าวว่ารัฐบาลของเธอมุ่งมั่นที่จะรับรองมาตรฐานความปลอดภัยและสวัสดิภาพของสัตว์
“จระเข้เป็นสัญลักษณ์สำคัญของนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี มันทำให้วิถีชีวิตของเรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เจ้าของที่มีความรับผิดชอบก็น่าจะมีสิทธิ์ที่ได้รับใบอนุญาตให้เลี้ยงพวกเขา”
การห้ามใบอนุญาตจระเข้ใหม่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดการจระเข้ในนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีของพรรคแรงงาน หลังจากพบจำนวนของจระเข้น้ำเค็มเพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคดังกล่าว
ในปี 1971 มีจระเข้หลายสายพันธุ์ได้รับการปกป้องจากการลดจำนวนและการล่าสัตว์ในนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีและตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จระเข้ในพื้นที่ดังกล่าว ก็เพิ่มขึ้นจากประมาณ 3,000 ตัวเป็น 100,000 ตัว
และเมื่อปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวรายหนึ่งถูกจระเข้น้ำเค็มกัดในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในนครดาร์วิน
แผนการจัดการจระเข้ 10 ปีของพรรคแรงงานยังรวมไปถึงการเพิ่มโควต้าการคัดจระเข้น้ำเค็มด้วย
หัวหน้ากัปตันเรือ Jumping Crocodile Cruise อเล็กซานเดอร์ วิลเลียมส์ กล่าวว่าทางการได้กำหดเกณฑ์ในการประเมินผู้ที่ต้องการเลี้ยงจระเข้
อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าทางการสามารถออกข้อบังคับได้รัดกุมกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ที่รัฐบาลกลับมาออกใบอนุญาตอีกครั้ง
“ควรมีความเข้มงวดในการได้รับใบอนุญาตมากกว่านี้ แม้ว่าในปัจจุบันมีข้อบังคับเกี่ยวกับเหตุฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพอยู่แล้วก็ตาม”
“หากคุณอาศัยอยู่ในเขตเมือง คุณสามารถเลี้ยงจระเข้จนถึงในขนาดที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ดี แต่คิดว่าอาจต้องมีมาตรการเพิ่มเติมอีกสองสามอย่างเพื่อปกป้องทั้งสัตว์และเจ้าของให้ปลอดภัย ”
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ facebook.com/sbsthai
