ออสเตรเลียยังติด 20 อันดับทุจริตน้อยสุดในโลก แต่สหรัฐฯ ร่วง

NEWS: รายงานจากองค์กรความโปร่งใสนานาชาติในเรื่องคอร์รัปชันแสดงให้เห็นว่าออสเตรเลียยังคงอยู่ใน 20 ประเทศที่ 'ขาวสะอาด' ที่สุด

Edda Mueller, chairwoman of Transparency International Germany e.V. poses for the media with the Corruption Perceptions Index 2018. Source: AAP

Edda Mueller, chairwoman of Transparency International Germany e.V. poses for the media with the Corruption Perceptions Index 2018. Source: AAP

You can read the full version of this story in English on SBS News here.

ประเทศออสเตรเลียยังคงอยู่ใน 20 อันดับแรกของประเทศที่ขาวสะอาดที่สุด ในการสำรวจการทุจริตรายปี โดยมีประเทศเดนมาร์ก และ นิวซีแลนด์ อยู่ในอันดับที่ดีที่สุด ส่วนสหรัฐฯ นั้นร่วงออกไปจากกลุ่มดังกล่าว

กลุ่มเฝ้าระวังความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) กล่าวว่า ดัชนีความรู้สึกว่ามีการทุจริต (Corruption Perception Index) สำหรับปี ค.ศ. 2018 ซึ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อวานนี้ (29 ม.ค.) แสดงให้เห็นว่ามีจำนวนประเทศกว่าสองในสามที่ได้คะแนนต่ำกว่า 50 บนมาตรการวัด ซึ่ง 100 คือขาวสะอาดมาก และศูนย์คือทุจริตเป็นอย่างมาก

ออสเตรเลียได้รับคะแนนเท่ากับเมื่อปีที่แล้วที่ 77/100 โดยอยู่ในอันดับเดิมที่อันดับ 13

ทว่าสหรัฐฯ ได้สูญเสียสี่แต้มและร่วงออกไปจาก 20 อันดับแรกของประเทศที่ขาวสะอาดที่สุดเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2011 ในการสำรวจดังกล่าว

“คะแนนที่ต่ำนั้นเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐนั้นกำลังประสบกับภัยคุกคามต่อระบบการถ่วงดุลอำนาจต่างๆ เช่นเดียวกันกับการกัดกร่อนจริยธรรมที่เคยเป็นปกติ โดยเกิดขึ้นที่ระดับสูงสุด” TI กล่าวในรายงานประจำปี

ปีที่สองของวาระการเป็นประธานาธิบดีของนายทรัมป์เป็นปีที่ระส่ำระสาย ตั้งแต่การเปิดโปงซึ่งสร้างความเสียหายในเรื่องการสอบสวนความเชื่อมโยงระหว่างทีงรณรงค์ของนายทรัมป์เมื่อปี 2016 กับประเทศรัสเซีย ไปจนถึงข้อโต้แย้งในการที่เขาสนับสนุนผู้รับได้รับเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลสูง (Supreme Court) ซึ่งถูกกล่าวหาว่าทำการข่มเหงทางเพศ

ผู้นำสหรัฐฯ ผู้มักต่อว่าสื่อมวลชนว่าเชียน “ข่าวปลอม” ยังคงมีชนักติดหลังในเรื่องการเอื้อประโยชน์ให้คนสนิท และเรื่องความขัดแย้งทางผลประโยชน์

เมื่อเดือนที่แล้ว นายทรัมป์ตกลงที่จะปิดตัวองค์กรการกุศลของเขาลง หลังจากอัยการสูงสุดของนิวยอร์กกล่าวว่า ทางองค์กรได้ “ดำเนินการโดยแทบไม่ต่างจากสมุกเช็คเพื่อรับใช้ธุรกิจและผลประโยชน์ทางการเมืองของนายทรัมป์”

ตั้งแต่ปี 2012 มีเพียง 20 ประเทศเท่านั้นที่ได้ปรับปรุงคะแนนขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึง อาร์เจนตินา และ ไอวอรีโคสต์ ซึ่งได้คะแนน 40 และ 35 ตามลำดับ สูงขึ้นจาก 35 และ 29 ก่อนหน้านี้

ในขณะเดียวกัน 16 ประเทศก็ได้ลดลำดับลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงดังกล่าว รวมไปถึงออสเตรเลียซึ่งลดลงจากคะแนน 85 เป็น 77 และชิลี ซึ่งลดลงจาก 72 เป็น 67

โซมาเลียถูกให้คะแนนว่าเป็นประเทศที่ทุจริตมากที่สุดที่ 10 คะแนน ตามด้วยซีเรีย ซูดานใต้ เยเมน เกาหลีเหนือ ซูดาน กินีบิสโซ อีเควทอเรียลกินี อาฟกานิสถาน และ ลิเบีย
Protesters hold banners reading "Corruption No 4 of justice is the epidemic of bandit lawyers! 3 lawyers behind bars!"
Protesters hold banners reading "Corruption No 4 of justice is the epidemic of bandit lawyers! 3 lawyers behind bars!" Source: AAP
โดยรวมๆ แล้วเดนมาร์กนั้นขึ้นนำในการสำรวจว่าเป็นประเทศที่มีการทุจริตน้อยที่สุด ที่ 88 คะแนน ตามด้วยนิวซีแลนด์ ฟินแลนด์ สิงคโปร์ สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์

ในกลุ่มบนสุดยังมี นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ แคนาดา ลักเซมเบิร์ก เยอรมนี และอังกฤษ

ในการวิเคราะห์เปรียบเทียบการสำรวจดังกล่าวกับข้อมูลประชาธิปไตยของทั่วโลก Transparency กล่าวว่า สามารถโยงความเกี่ยวข้องระหว่างการทุจริตเข้ากับสุขภาพของประชาธิปไตยได้

ทางองค์กรกล่าวว่า ประเทศประชาธิปไตยแบบสมบูรณ์ จะได้คะแนนดัชนีการทุจริตโดยเฉลี่ยที่ 75 คะแนน ประเทศประชาธิปไตยที่มีความบกพร่องจะเฉลี่ยอยู่ที่ 49 คะแนน และประเทศซึ่งมีระบอบเผด็จการจะมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 30 คะแนน

ทั้งยังได้ชี้ว่า ฮังการีนั้นลดต่ำลงแปดคะแนน และตุรกีเก้าคะแนน ในระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา เหลือ 46 และ 41 คะแนนตามลำดับ

ในช่วงเดียวกัน มีรายงานซึ่งอ้างอิงโดยการสำรวจประชาธิปไตยประจำปีโดยฟรีดอมเฮาส์ (Freedom House’s annual democracy survey) ซึ่งชี้ว่าตุรกีนั้นถูกลดระดับจาก “เสรีบางส่วน” ลงเป็น “ไม่เสรี” ในขณะที่ฮังการีนั้นมีคะแนนต่ำที่สุดสำหรับสิทธิทางการเมือง นับตั้งแต่การล่มสลายของระบบคอมมิวนิสต์ในปี 1989

คะแนนต่างๆ ดังกล่าวสะท้อนถึง “การถดถอยลงของกฎหมายและสถาบันประชาธิปไตย เช่นเดียวกันกับการหดตัวลงอย่างรวดเร็วของพื้นที่สำหรับประชาสังคมและสื่อมวลชนที่เป็นอิสระ” ทางองค์กรกล่าว

“งานวิจัยของเราทำให้มีการเชื่อมโยงอย่างชัดเจนระหว่างการการมีประชาธิปไตยที่มีสุขภาพดีและภาครัฐฯ ที่ต่อสู้กับการทุจริตได้อย่างสำเร็จ” คุณเดเลีย เฟอร์เรรา รูบิโอ ผู้นำองค์กร Transparency กล่าว

“การทุจริตนั้นจะมีโอกาสแผ่ขยายได้มากกว่าอย่างมาก ในที่ซึ่งรากฐานของประชาธิปไตยนั้นอ่อนแอ และอย่างที่เราได้เห็นในหลายๆ ประเทศ นักการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย หรือเป็นประชานิยม ก็สามารถจะใช้ให้เป็นประโยขน์ต่อตัวพวกเขาเองได้”

ดัชนีดังกล่าว คำนวณโดยใช้แหล่งข้อมูล 13 แหล่ง ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับความรู้สึกถึงการทุจริตมิชอบในภาคส่วนของรัฐโดยนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ของประเทศ

With AFP
- - - - -
SBS Thai: สำหรับประเทศไทยนัั้นอยู่ที่อันดับ 99 จากทั้งหมด 180 ประเทศที่ได้รับการจัดอันดับ ด้วยคะแนน 36 คะแนน ซึ่งต่ำลงจากเมื่อปีที่แล้ว (37 คะแนน) ท่านสามารถดูรายละเอียดการจัดลำดับดังกล่าวทั้งหมดได้ที่นี่: https://www.transparency.org/cpi2018

ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ facebook.com/sbsthai.

Share

Published

Updated

Presented by Tanu Attajarusit
Source: AFP

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand