พวกใคร่เด็กชาวออสเตรเลียยังคงพยายามออกนอกประเทศแม้มีมาตรการยกเลิกพาสปอร์ต

Investigations: กฎหมาย “ฉบับแรกของโลก” ได้ห้ามพวกใคร่เด็กชาวออสเตรเลียไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วถึง 2 หมื่นคน แต่มีอีกหลายสิบคนที่ยังคงพยายามเดินทางไปต่างประเทศ เอสบีเอส นิวส์ มีรายงานพิเศษเรื่องนี้

Sydney Airport (AAP)

บรรยากาศการเดินทางที่สนามบินซิดนีย์ Source: AAP

You can read the full article here.

ผู้ชายชาวออสเตรเลียนั้นพบเห็นได้ทั่วไปในย่านแปดเปื้อนราคีต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งที่นั่นเด็กๆ จำนวนมากถูกขายและถูกล่วงละเมิดทางเพศ จากคำบอกเล่าของนายโทนี เคอร์วัน จากองค์กร เดสทินี เรสคิว (Destiny Rescue)

“มีหลายครั้งที่เราไปยังบาร์ ซ่องโสเภณี และอะโกโกบาร์ จะมีชาวออสเตรเลียอยู่ที่นั่น” นายเคอร์วัน กล่าว เขาเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรการกุศล เดสทินี เรสคิว ขึ้น เพื่อปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“นั่นเป็นหนึ่งในสัญชาติที่เราพบมากที่สุดในสถานที่เหล่านั้น”

นายเคอร์วัน ซึ่งองค์กรการกุศลของเขา ได้ช่วยเหลือเด็กๆ มาแล้ว 3,000 ราย นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 เป็นต้นมา จากประเทศฟิลิปปินส์ กัมพูชา ไทย และอินเดีย เขากล่าวว่า เขายังไม่เห็นผลกระทบที่เด่นชัดเจนจากกฎหมายออสเตรเลีย “ฉบับแรกของโลก” ซึ่งยกเลิกหนังสือเดินทางของผู้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นผู้กระทำผิดทางเพศต่อเด็ก และพยายามเดินทางไปต่างประเทศ
Tony Kirwan has rescued around 3,000 children from sexual exploitation.
Tony Kirwan has rescued around 3,000 children from sexual exploitation. Source: SBS
แต่มีผู้ที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นผู้กระทำผิดทางเพศต่อเด็ก 29 คน ที่ถูกยกเลิกหนังสือเดินทางที่สนามบินแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย นับตั้งแต่กฎหมายใหม่นี้มีเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จากข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศและพาณิชย์ของออสเตรเลีย

กว่าครึ่งหนึ่งของการยกเลิกหนังสือเดินทางเหล่านั้น หรือระบุชัดเจนได้เลยว่า มีกรณีการยกเลิกหนังสือเดินทางเหล่านั้น 17 เล่ม เกิดขึ้นในช่วงเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา

แม้จำนวนจะเพิ่มขึ้น แต่กรณีการยกเลิกหนังสือเดินทางทั้งหมดของผู้ใคร่เด็ก ที่พยายามเดินทางไปต่างประเทศ มีจำนวนเกือบ 800 รายในแต่ละปี หรือคิดเป็นจำนวน 2 คนต่อวัน จากการเปิดเผยของรัฐบาล ขณะที่เสนอร่างกฎหมายนี้สู่รัฐสภา

แม้จะมีความล่าช้าในกระบวนการยกเลิกหนังสือเดินทางอย่างเป็นทางการ แต่กระทรวงกล่าวว่า ยังคงมีการขัดขวางไม่ให้ผู้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นผู้กระทำผิดทางเพศต่อเด็กเดินทางไปต่างประเทศได้

“ขณะนี้ เป็นความผิดอาญาที่ผู้กระทำผิดจะเดินทางออกนอกออสเตรเลีย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากองค์กรบังคับใช้กฎหมายต่างๆ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศและพาณิชย์ของออสเตรเลีย กล่าว

“หากพวกเขาพยายามออกนอกประเทศ พวกเขาจะถูกขัดขวางที่พรมแดน และมีความผิดระวางโทษสูงสุดจำคุก 5 ปี”

จากจำนวนผู้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นผู้กระทำผิดทางเพศต่อเด็ก 800 คน ที่เดินทางไปต่างประเทศในปี 2016 ราวร้อยละ 40 ของบุคคลดังกล่าวเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กว่า 1 ใน 3 ของบุคคลดังกล่าวเดินทางออกนอกประเทศ โดยไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทราบ แม้จะมีข้อบังคับระบุไว้ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ที่ร้ายแรงของกฎหมายก่อนหน้านี้

 

‘ฮอลิเดย์เพื่อข่มขืนเด็ก’
มีผู้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นผู้กระทำผิดทางเพศต่อเด็กถึง 20,000 คนในออสเตรเลียที่ได้รับผลกระทบจากการห้ามเดินทางออกนอกประเทศนี้

วุฒิสมาชิกเดอร์ริน ฮินช์ ของรัฐวิกตอเรีย ได้พยายามวิ่งเต้นขอเสียงสนับสนุนให้ยุติสิ่งที่เขาเรียกว่า ‘ฮอลิเดย์เพื่อข่มขืนเด็ก’ โดยเป็นการเดินทางไปยังประเทศในเอเชีย เขาบอกกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่า เขาจะจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่ากฎหมายนี้ใช้งานได้ดีตามความคาดหวังหรือไม่

แต่จำนวนการยกเลิกหนังสือเดินทางที่ค่อนข้างต่ำก็อาจเป็นสัญญาณว่ากฎหมายนี้นั้นใช้การได้ดีอย่างที่ตั้งใจกันไว้ นายฮินช์ กล่าว
Independent Senator Derry Hinch
วุฒิสมาชิกเดอร์ริน ฮินช์ จากรัฐวิกเตอเรีย กล่าวว่า เขาจะจับตาดูกฎหมายใหม่นี้อย่างใกล้ชิด (Source: AAP) Source: AAP
“เราไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ตัดสินใจไม่ลองเดินทางและอาจจะไม่ไปเลย เพราะขณะนี้เป็นความผิดทางกฎหมายแล้วในการที่จะพยายามและเดินทางไปต่างประเทศ” วุฒิสมาชิกฮินช์ กล่าว

เขายังได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เขาได้รับโทรศัพท์จากนายมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ ที่ขณะนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้แล้ว

“เขาบอกผมว่า เดอร์ริน นี่มัลคอล์มนะ ผมแค่อยากให้คุณเป็นคนแรกที่รู้ว่าพวกเขาผลักดันบุคคลคนแรกกลับไปแล้วที่สนามบินซิดนีย์วันนี้” นายฮินช์ เล่า

“ผมต้องยอมรับเลยว่า ตอนนั้นผมยืนอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่นและผมก็ร้องไห้เลย”
Child sex offenders travelling overseas.
Child sex offenders travelling overseas. Source: SBS
โอกาสครั้งที่สอง
นางจูลี บิชอป อดีตรัฐมนตรีด้านการต่างประเทศของออสเตรเลีย กล่าวในขณะนั้นว่ากฎหมายใหม่นี้จะ “เพิ่มมาตรฐาน” ของกฎหมายเดิมที่มีอยู่ให้สูงยิ่งขึ้น

แต่นายเบรตต์ คอลลินส์ ผู้พิทักษ์สิทธิของเหล่านักโทษ กล่าวว่ากฎหมายนี้ควรมุ่งเน้นมากขึ้นไปยังบุคคลที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเกรงว่ามีความเสี่ยงที่จะก่อเหตุสูง และไม่ใช่พุ่งเป้าไปยังทุกคนที่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนผู้กระทำผิดทางเพศต่อเด็ก

“เมื่อคนเหล่านี้ได้ติดคุกไปแล้ว พวกเขาควรได้รับโอกาสในการแก้ไขฟื้นฟูพฤติกรรมใหม่ มันจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่ผู้คนจะได้รับโอกาสให้ปรับตัวให้สามารถเข้ากับชุมชนได้อีกครั้ง” นายคอลลินส์ ผู้ก่อตั้งองค์กรไม่มุ่งหวังผลกำไร จัสทิซ แอ็กชัน (Justice Action) กล่าว

นอกจากนี้ มีหนังสือเดินทางอีก 53 ฉบับที่ถูกยกเลิกไปในช่วงปีการเงินที่แล้ว ด้วยเหตุผลด้านการบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ ซึ่งในจำนวนนั้น 21 กรณีเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย

นางเฮตตี จอห์นสตัน ผู้ก่อตั้ง เบรฟฮาร์ตส์ (Bravehearts) องค์กรการกุศลเพื่อปกป้องเด็ก กล่าวว่า เธอหวังว่าจะมีการยกเลิกหนังสือเดินทางของบรรดาผู้ใคร่เด็กมากขึ้น

“ฉันคิดว่ามันสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชาวออสเตรเลียทุกคน มันเกือบเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของชาติ ที่เราจะไม่ส่งบรรดาผู้กระทำผิดของเราไปยังต่างประเทศ” นางจอห์นสตัน กล่าว

“เราไม่ต้องการให้ชาวออสเตรเลียเดินทางไปต่างประเทศและไปล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กๆ ที่ไม่สามารถปกป้องตนเองได้”

 

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่นี่

Share

Published

Updated

By Jarni Blakkarly
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand
พวกใคร่เด็กชาวออสเตรเลียยังคงพยายามออกนอกประเทศแม้มีมาตรการยกเลิกพาสปอร์ต | SBS Thai