- กลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคนิคเกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันโรคแห่งออสเตรเลีย (ATAGI) ได้แนะนำให้เปลี่ยนจากการใช้คำว่า "fully vaccinated" (ฉีดวัคซีนครบแล้ว) ไปเป็น "up to date" (ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์) แทน
- ชาวออสเตรเลียที่อายุ 16 ปีขึ้นไปจะต้องได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มกระตุ้น (บูสเตอร์ช็อต) จึงจะถือว่ามีสถานะการฉีดวัคซีน "up to date" (ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์) ในขณะที่เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีจะยังถือว่ามีสถานะการฉีดวัคซีน "up to date" (ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์) หลังจากฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม
- คำจำกัดความที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ของการวัคซีนครบถ้วนนี้จะใช้เฉพาะกับนโยบายภายในประเทศเกี่ยวกับโควิด แต่จะไม่ใช้กับกับแผนการเปิดพรมแดนระหว่างประเทศอีกครั้ง
- คำแนะนำที่เปลี่ยนแปลงใหม่จากกลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคนิคเกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันโรคนี้ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ปลายเดือนมีนาคม
- นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะต้องฉีดวัคซีนสองเข็มเท่านั้นจึงจะสามารถเดินทางเข้าออสเตรเลียได้ เมื่อพรมแดนระหว่างประเทศกลับมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 21 กุมภาพันธ์
- นาย เกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหพันธรัฐ กล่าวว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นจะเป็นข้อกำหนดแบบภาคบังคับสำหรับเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุทั่วประเทศภายใต้คำแนะนำใหม่เรื่องวัคซีน
- เมื่อวันศุกร์วันนี้ (11 ก.พ.) รัฐนิวเซาท์เวลส์ วิกตอเรีย ควีนส์แลนด์ และเซาท์ออสเตรเลีย รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายใหม่รวมกัน 48 ราย
- นายแบร็ด ฮาสซาร์ด รัฐมนตรีสาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ และพญ.แคร์รี ชานต์ ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านสุขภาพของรัฐนิวเซาท์เวลส์ สหภาพด้านการแพทย์ และนักวิชาการ จะไปให้ข้อมูลแก่คณะกรรมการรัฐสภาด้านความรับผิดชอบต่อสาธารณะในวันศุกร์นี้
- การกลับมาเปิดเมืองของรัฐนิวเซาท์เวลส์และความท้าทายล่าสุดในภาคส่วนการดูแลผู้สูงอายุและสุขภาพ จะถูกตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน
- ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้มีการผ่อนคลายข้อจำกัดเพื่อป้องกันการระบาดของโควิดในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย รวมถึงการจำกัดความหนาแน่นของผู้ใช้บริการสำหรับพื้นที่กลางแจ้งของผับ คลับ และร้านอาหาร
สถิติโควิด-19:
- นิวเซาท์เวลส์รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,716 ราย โดย 108 รายอยู่ในห้องดูแลผู้ป่วยวิกฤต มีผู้เสียชีวิต 19 ราย และพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 8,950 ราย ลดลงจาก 10,130 รายในวันพฤหัสบดี
- ในรัฐวิกตอเรีย มีผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 553 ราย โดย 82 รายอยู่ในห้องดูแลผู้ป่วยวิกฤต มีผู้เสียชีวิต 13 ราย และผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,521 ราย
- ในรัฐควีนส์แลนด์ มีผู้เสียชีวิต 14 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,977 ราย มีผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 584 ราย โดย 45 รายอยู่ในห้องดูแลผู้ป่วยวิกฤต
- แทสเมเนียรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 552 ราย มีผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 16 ราย และ 1 รายอยู่ในห้องดูแลผู้ป่วยวิกฤต
- เซาท์ออสเตรเลีย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,445 ราย มีผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 210 ราย โดย 16 รายอยู่ในห้องดูแลผู้ป่วยวิกฤต
- เวสเทิร์นออสเตรเลีย รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ติดเชื้อในชุมชน 51 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
หลายรัฐได้จัดทำแบบฟอร์มการลงทะเบียนผลตรวจเชื้อเป็นบวกจากการตรวจด้วยชุดตรวจเชื้อแบบทราบผลรวดเร็ว (RAT) ดังต่อไปนี้
การกักตัว และมาตรการจำกัดในรัฐและมณฑลต่าง ๆ
คลิกหรือแตะที่นี่ เพื่อตรวจสอบสิ่งที่คุณทำได้และทำไม่ได้ในรัฐและมณฑลของคุณ
การเดินทาง
ความช่วยเหลือทางการเงิน
มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการจ่ายเงินช่วยเหลือภัยพิบัติโควิด-19 เมื่อรัฐและมณฑลต่าง ๆ มีประชาชนฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 70% และ 80%
คลิกหรือแตะที่นี่ เพื่ออ่านวิธีการรับความช่วยเหลือในสถานการณ์โควิด-19 จากเซอร์วิเซส ออสเตรเลีย (Services Australia) ในภาษาของคุณ
ข่าวและข้อมูลเป็นภาษาต่างๆ กว่า 60 ภาษา ที่ sbs.com.au/coronavirus
- แนวทางการปฏิบัติตนที่เกี่ยวข้องสำหรับรัฐหรือมณฑลของคุณ: NSW, Victoria, Queensland, Western Australia, South Australia, Northern Territory, ACT, Tasmania.
- ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ในภาษาของคุณ
ไปที่เว็บไซต์ของ NSW Multicultural Health Communication Service เพื่ออ่านข้อมูลที่แปลเป็นภาษาต่างๆ ที่:
สถานที่ตรวจเชื้อในแต่ละรัฐและมณฑล:
ติดต่อสอบถามบริการสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1800 020 080
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ facebook.com/sbsthai
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ชาวออสเตรเลียกำลังจะต้องได้รับบูสเตอร์ช็อตจึงจะถือว่าฉีดวัคซีนครบ
