เงิน JobKeeper ถูกลด: นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้

เงินอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper) สำหรับลูกจ้างชาวออสเตรเลียหลายล้านคนกำลังถูกลดจำนวนลง ขณะรัฐบาลสหพันธรัฐปรับมาตรการรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนา

Critics have warned against reducing the size of the JobKeeper payments.

Critics have warned against reducing the size of the JobKeeper payments. Source: AAP

รัฐบาลสหพันธรัฐของออสเตรเลียกำลังลดปริมาณการจ่ายเงินอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper) แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้ขยายเงินอุดหนุนค่าจ้างนี้ออกไป ขณะออสเตรเลียกำลังเผชิญสถานการณ์การระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนา

โครงการเงินอุดหนุนค่าจ้างด้วยงบประมาณ 86,000 ล้านดอลลาร์ เริ่มขึ้นเมื่อ 6 เดือนก่อน ซึ่งในขณะนั้น ลูกจ้างเผชิญความไม่แน่นอนเรื่องการจ้างงานและพบความยากลำบากอย่างรุนแรงด้านการเงิน

ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 28 กันยายน เป็นต้นไป เงินอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์ได้ถูกลดลงจาก 1,500 ดอลลาร์ต่อสองสัปดาห์ เหลือ 1,200 ดอลลาร์ต่อสองสัปดาห์สำหรับลูกจ้างฟูลไทม์

เงินจ๊อบคีพเปอร์ได้ถูกลดลงเหลือ 750 ดอลลาร์ต่อสองสัปดาห์สำหรับลูกจ้างพาร์ตไทม์ ซึ่งทำงานไม่ถึง 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ก่อนการระบาดใหญ่ของเชื้อโควิด-19
ขณะที่เศรษฐกิจเริ่มเปิดอีกครั้ง รัฐบาลสหพันธรัฐกล่าวว่า จำเป็นต้องมีการการลดเงินจ๊อบคีพเปอร์ลง เพื่อทำให้แน่ใจได้ว่าโครงการพุ่งเป้าไปยังธุรกิจที่ยังคงเผชิญความเดือดร้อนทางการเงินอยู่

แต่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะตัดการสนับสนุนด้านรายได้ เนื่องจากนครเมลเบิร์นยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ และประเทศออสเตรเลียกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งแรกในระยะเวลาเกือบ 30 ปี

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี้เองที่ เงินช่วยเหลือผู้ว่างงานจ๊อบซีกเกอร์ (JobSeeker) ถูกลดลง 300 ดอลลาร์ต่อสองสัปดาห์
อ่านเพิ่มเติม

ลดเงินช่วยเหลือ JobSeeker

ใครยังคงมีสิทธิ์ได้รับเงินจ๊อบคีพเปอร์?

ลูกจ้างเกือบ 3.6 ล้านคนได้รับประโยชน์จากเงินอุดหนุนค่าจ่างนี้ โดยมีบริษัทและธุรกิจต่างๆ กว่า 900,000 แห่งลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนค่าจ้างให้ลูกจ้างของตน

แต่การจะได้รับความช่วยเหลือนี้ต่อไปหลังวันที่ 28 กันยายน ธุรกิจและองค์กรไม่มุ่งหวังผลกำไรต่างๆ จำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังคงมีรายได้ลดลงตามข้อกำหนดคุณสมบัติธุรกิจที่จะสามารถรับเงินอุดหนุนค่าจ้างได้

โครงการได้ถูกปรับเปลี่ยนเล็กน้อย หลังมีเสียงวิจารณ์ว่า ลูกจ้างพาร์ตไทม์บางคนมีรายได้มากกว่าที่พวกเขามีช่วงก่อนวิกฤตโควิดเสียอีก

การจะมีสิทธิ์รับเงินอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์ได้นั้น ธุรกิจส่วนใหญ่จะต้องแสดงให้เห็นต่อไปว่าพวกเขามีรายได้ลดลงอย่างน้อยร้อยละ 30

ธุรกิจที่มีสิทธิ์จะต้องมีมูลค่าการซื้อขายรวมไม่เกิน 1,000 ล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน ธุรกิจที่มีมูลค่าการซื้อขายรวมเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ ต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีรายได้ลดลงอย่างน้อยร้อยละ 50

โครงการดังกล่าวยังคงเปิดรับธุรกิจรายใหม่ที่ต้องการขอรับความช่วยเหลือ หากธุรกิจเหล่านั้นมีคุณสมบัติตามกำหนดและผ่านการทดสอบด้านรายได้

ลูกจ้างพาร์ตไทม์ที่มีรายได้ไม่เกิน 300 ดอลลาร์ต่อสองสัปดาห์ ยังมีสิทธิ์ได้รับเงินสวัสดิการผู้ว่างงานจ๊อบซีกเกอร์ (JobSeeker) ได้อีกด้วย ภายใต้การขยายความช่วยเหลือของรัฐบาล

เหตุใดรัฐบาลจึงเปลี่ยนแปลงความช่วยเหลือนี้?

โครงการจ๊อบคีพเปอร์ ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ชาวออสเตรเลียหลายล้านคนต้องร่วมเข้าแถวรอรับเงินสวัสดิการคนว่างงาน ซึ่งก็มีผู้ขอรับความช่วยเหลือพุ่งสูงขึ้นมากอยู่แล้ว

แต่จากการที่บริษัทและธุรกิจต่างๆ นอกพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์น ไม่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มข้นแล้ว รัฐบาลจึงโต้แย้งว่า นี่ถึงเวลาที่จะต้องลดการจ่ายเงินอุดหนุนค่าจ้างนี้

“เราได้ทำทุกอย่าง เพื่อพยายามทำให้แน่ใจได้ว่าเราให้สนับสนุนเศรษฐกิจ สนับสนุนลูกจ้างให้ยังคงเป็นลูกจ้างของธุรกิจต่อไป” นายไมเคิล แมกคอร์แมกค์ รองนายกรัฐมนตรี บอกกับ เอบีซี ในวันจันทร์ (28 ก.ย.)

“แต่ถึงเวลาแล้วที่ชาวออสเตรเลียจะต้องกลับไปทำงาน”

อัตราการว่างงานของออสเตรเลียลดลงจากร้อยละ 7.5 ในเดือนกรกฎาคม เหลือร้อยละ 6.8 ในเดือนสิงหาคม

ขณะเดียวกัน สหภาพแรงงานและฝ่ายค้าน กล่าวหารัฐบาลว่า กำลังบีบให้ชาวออสเตรเลียหลายล้านคนต้องทนรับการถูกลดค่าจ้างในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้

นายไมเคิล โอนีล ประธานสหภาพแรงงาน เอซีทียู (ACTU) กล่าวว่า รัฐบาลคิดผิด ที่ลดเงินช่วยเหลือ ในช่วงเวลาที่ครอบครัวและลูกจ้างมากมายยังคงต้องพึ่งพาเงินอุดหนุนค่าจ้างนี้

เงินอุดหนุนค่าจ้างจะขยายต่อไปถึงเมื่อใด?

โครงการนี้ในเบื้องต้นถูกระบุไว้ในกฎหมายให้ดำเนินการได้ 6 เดือน แต่รัฐบาลมุ่งมั่นจะขยายโครงการเงินจ๊อบคีพเปอร์นี้ออกไป หลังการพิจารณาทบทวนโครงการของกระทรวงการคลังที่เปิดเผยออกมาในเดือนมิถุนายนปีนี้

ผลการพิจารณาทบทวนโครงการพบว่า เงินอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์ได้บรรลุวัตถุประสงค์ในการให้การสนับสนุนแก่ธุรกิจและฟื้นฟูการจ้างงาน ช่วยรักษาความสัมพันธ์ด้านการจ้างงานระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง และช่วยให้การสนับสนุนด้านรายได้ที่จำเป็น

รายงานของกระทรวงการคลัง ยังสรุปว่า จำเป็นต้องมีการขยายโครงการโดยกำหนดเป้าหมายอย่างเหมาะสม เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป

รัฐบาลจึงได้ขานรับผลการพิจารณาทบทวนโครงการ ด้วยการประกาศการขยายโครงการอุดหนุนค่าจ้างออกไปอีก 2 ระยะ ซึ่งจะทำให้โครงการนี้ถูกขยายไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า
ระยะที่ 3 ของการโครงการจ๊อบคีพเปอร์จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม โดยเงินจ๊อบคีพเปอร์จะลดลงเหลือ 1,000 ดอลลาร์ต่อสองสัปดาห์สำหรับลูกจ้างฟูลไทม์ที่มีสิทธิ์ และเหลือ 650 ดอลลาร์ต่อสองสัปดาห์สำหรับลูกจ้างพาร์ตไทม์

นายจิม ชาลเมอส์ โฆษกด้านการคลังของพรรคฝ่ายค้านสหพันธรัฐ กล่าวว่า เขาสนับสนุนโครงการสนับสนุนที่มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ แต่บอกว่า การลดจำนวนเงินลงในเวลานี้เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นที่ลูกจ้างจะต้องไปเข้าแถวรอรับเงินสวัสดิการคนว่างงาน

“มันไม่มีเหตุผลเลยที่สกอตต์ มอร์ริสัน และจอช ฟรายเดนเบิร์ก จะกระชากความช่วยเหลือที่สำคัญออกไปจากเศรษฐกิจ โดยไม่มีแผนการจ้างงานที่ครอบคลุมรอบด้านมาแทนที่” นายชาลเมอร์ กล่าว

รัฐบาลสหพันธรัฐโต้แย้งว่า การนำชาวออสเตรเลียกลับไปทำงานเป็นสิ่งที่รัฐบาลมุ่งเน้น โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดแผนกระตุ้นการเพิ่มการจ้างงาน ในการแถลงร่างงบประมาณรัฐบาลสหพันธรัฐในวันอังคารที่ 6 ตุลาคมนี้

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ ที่นี่

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ ที่นี่

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทย

Share

Published

Updated

By Tom Stayner
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand