เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (8 ก.ค.) เจ้าหน้าที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรัฐวิกตอเรียรายใหม่ 134 ราย ขณะที่ประชาชนทั่วนครเมลเบิร์นต่างกำลังเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับมาตรการล็อกดาวน์ที่กำลังจะมีการประกาศใช้เป็นเวลา 6 สัปดาห์ในวันพรุ่งนี้
นายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า พบการติดเชื้อ 75 รายในอาคารสงเคราะห์ 9 แห่งในนครเมลเบิร์น ซึ่งมีคำสั่งในการล็อกดาวน์ขั้นเด็ดขาดอยู่ในขณะนี้
“เราทุกคนทำงานอย่างหนักที่สุดเท่าที่เราทำได้ เราทำสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ และนั้นคือสิ่งเดียวกันกับที่เราได้ขอความร่วมมือจากประชาชน เรารู้ดีว่า ไม่มีใครต้องการอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้” นายแอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าว
ตั้งแต่เวลา 23:59 น. ในคืนวันนี้ (8 ก.ค.) รัฐบาลรัฐวิกตอเรียจะประกาศให้พื้นที่มหานครของนครเมลเบิร์น (Metropolitan Melbourne) และพื้นที่มิตเชลล์ (Mitchell Shire) กลับมาอยู่ในมาตรการจำกัดล็อกดาวน์ระดับ 3 อีกครั้ง เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง
“หากเราทำงานร่วมกันในช่วง 6 สัปดาห์ต่อจากนี้ ซึ่งแน่นอนว่า จะมีความเจ็บปวด ความสับสน และความยากลำบาก เราจะสามารถผ่านพ้นช่วงต้องอยู่แต่ในบ้านไปได้” นายแอนดรูว์ส มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าว
“เราทุกคนจะทำงานอย่างหนัก และหนักมาก ทั้งวันทั้งคืน เพื่อให้ไปถึงผลลัพธ์นั้นให้ได้ ซึ่งชาวรัฐวิกตอเรียทุกคนจะต้องร่วมมือกัน และผมมั่นใจว่าจะเป็นเช่นนั้น”
นายแอนดรูว์ส มุขในตรีรัฐวิกตอเรีย ยังได้กล่าวขอโทษสำหรับความเดือนร้อนต่าง ๆ ที่ชาวรัฐวิกตอเรียหลายครอบครัวต้องเผชิญในช่วงเวลาอีก 6 สัปดาห์ต่อจากนี้
“ผมขออภัยในความไม่สะดวก มันเป็นอุปสรรคอย่างมากสำหรับชาวรักวิกตอเรียหลายครอบครัวที่กำลังต้องพบเจอในช่วงเวลา 6 สัปดาห์ต่อจากนี้ เราไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น” นายแอนดรูว์สกล่าว
“แต่เรากลับไปเป็นปกติไม่ได้ เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านั้นซึ่งทำให้เรามาถึงจุดนี้แล้ว เราสามารถทำได้เพียงตอบสนองอย่างเหมาะสม และนั่นรวมถึงการที่ทุกคนปฏิบัติตามกฎ เนื่องจากกฎระเบียบเหล่านั้นมีขึ้นมาเพื่อทุก ๆ คน”
ขณะที่เจ้าหน้าที่คาดว่า จะสามารถทำการตรวจหาเชื้อให้กับประชาชนทั้งหมดในอาคารสงเคราะห์ทั้ง 9 แห่ง ภายในวันนี้ (8 ก.ค.) ซึ่งมีประชาชนราว 3,000 คน อยู่ระหว่างการล็อกดาวน์ขั้นเด็ดขาดอยู่ภายใน
“เรามั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะสามารถทำการตรวจหาเชื้อได้ทั้งหมดในวันนี้” นายแอนดรูว์ส มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าว
“ผมขอกล่าวไปยังประชาชนทุกท่านที่อาศัยอยู่ในอาคารสงเคราะห์อีกครั้งว่า คุณจะอยู่ภายใต้มาตรการจำกัดห้ามในอีกไม่นานเกินรอ เพื่อความปลอดภัย เพื่อสุขภาพ และสวัสดิภาพ และระบบสาธารณสุขของเรา”
NSW อาจประกาศมาตรการจำกัดในเมืองใกล้ชายแดน
นางแกลดีส์ เบเรจิเกลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่จะประกาศมาตราการจำกัดห้ามในเมืองต่าง ๆ บริเวณชายแดนรัฐนิวเซาท์เวลส์ หลังมีการประกาศปิดพรมแดนระหว่างสองรัฐ เมื่อคืนวานนี้ (7 ก.ค.) ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปี และความพยายามอย่างมากเพื่อหยุดการแพร่ระบาดจากนครเมลเบิร์นไม่ให้แพร่กระจายไปไกลกว่านี้
นางเบเรจิเกลียน กล่าวในวันนี้ว่า มันเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้คนจะต้องอยู่ให้ห่างจากเมืองบริเวณชายแดน
“ความเป็นไปได้ในการระบาดของโรคในรัฐนิวเซาท์เวลส์ จากสิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐวิกตอเรียนั้น มีความเสี่ยงสูงเป็นอย่างยิ่ง” นางเบเรจิเกลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าว
“ความเป็นไปได้ในความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้มาตรการจำกัดที่เข้มงวดขึ้นบริเวณชายแดนนั้นมีสูง เราสามารถควบคุมว่าจะเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่ฝั่งเราได้ แต่เราไม่สามารถควบคุมว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้ในอีกฝั่งหนึ่งของชายแดน”
ผู้อยู่อาศัยในตึกอาคารสงเคราะห์ที่ได้รับผลกระทบ และต้องการความช่วยเหลือสามารถโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ความช่วยเหลือที่หมายเลข 1800 961 054 หากคุณต้องการล่าม ให้โทรศัพท์ไปยัง 131 450 บริการทั้งสองนี้ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ ที่นี่
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ ที่นี่
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ facebook.com/sbsthai
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
วิกฤตไวรัสกระทบตลาดเช่าที่พักอาศัย วัยรุ่น-ผู้ถือวีซ่ารับผลหนัก
