นักวิทย์ฯ​ หวั่นวัคซีนโควิดไม่ได้ผลกับเชื้อกลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้

แม้ผู้ผลิตวัคซีนหลายรายจะมั่นใจว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิดจะสามารถต่อสู้กับเชื้อกลายพันธุ์ได้หลายชนิด แต่หน่วยงานด้านสุขภาพในอังกฤษกังวลว่า อาจเป็นปัญหาสำหรับไวรัสโคโรนากลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้

Medical staff being vaccinated against COVID-19 at a Rome hospital on Monday, 4 January, 2021.

Medical staff being vaccinated against COVID-19 at a Rome hospital on Monday, 4 January, 2021. Source: AAP

ประเด็นสำคัญในข่าว

  • ผู้ผลิตวัคซีนบางส่วนยืนยันว่า จะสามารถปรับปรุงให้วัคซีนของตน สามารถป้องกันไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ส่วนมากได้ ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
  • แต่ไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาใต้ นักวิทยาศาสตร์ในอังกฤษคาดว่า อาจยังไม่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันได้ในตอนนี้
  • พบการกลายพันธุ์ที่น่าสนใจในสายพันธุ์จากแอฟริกาใต้ เกิดขึ้นในส่วนสำคัญของไวรัสที่ใข้ในการทำให้เซลล์ในร่างกายมนุษย์ติดเชื้อ และอาจนำไปสู่การแพร่กระจายในอัตราสูง และหลบหนีจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้

นักวิทยาศาสตร์ในอังกฤษแสดงความกังวลว่า วัคซีนต้านไวรัสโคโรนาที่ได้มีการเปิดตัวในอังกฤษ อาจไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นในแอฟริกาใต้ได้ ซึ่งขณะนี้เชื้อไวรัสชนิดดังกล่าวกำลังแพร่กระจายไปในหลายประเทศ

เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งในอังกฤษและแอฟริกาใต้ ต่างพบเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์เช่นเดียวกัน ซึ่งเชื้อทั้งสองมีความสามารถในการแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น และเป็นสาเหตุที่ทำให้ให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในทั้งสองประเทศ
เมื่อวานนี้ (4 ม.ค.) นายแมตต์ แฮนค็อก (Matt Hancock) เลขาธิการหน่วยงานสาธารณสุขของอังกฤษ กล่าวว่า เขามีความกังวลอย่างมาก ต่อไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นในประเทศแอฟริกาใต้

“ผมมีความกังวลอย่างมากกับ (ไวรัสโคโรนา)​ สายพันธุ์จากแอฟริกาใต้ และนี่คือเหตุผลที่เราได้ดำเนินการเพื่อจำกัดห้ามเที่ยวบินจากแอฟริกาใต้ทั้งหมด” นายแฮนค็อกกล่าวกับวิทยุบีบีซี เมื่อวานนี้ (4 ม.ค.)

นายไซมอน คลาก (Simon Clark) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาระดับเซลล์ จากมหาวิทยาลัยเรดิง (University of Reading) กล่าวว่า ขณะที่ทั้งสองสายพันธุ์มีคุณสมบัติที่เหมือนกัน แต่สำหรับสายพันธุ์จากแอฟริกาใต้นั้น พบการกลายพันธุ์เพิ่มเติม ซึ่งเป็นเรื่องน่ากังวล

เขากล่าวอีกว่า การกลายพันธุ์นี้ ได้ครอบคลุมถึงการดัดแปลงที่เกิดขึ้นทั่วส่วนสำคัญของไวรัสที่เรียกว่า สไปก์ โปรตีน (Spike Protein) โดยไวรัสจะใช้ส่วนนี้ในการทำให้เซลล์ในร่างกายมนุษย์ติดเชื้อ และอาจทำให้ไวรัสสามารถต่อต้านานการตอบสนองจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ที่ได้รับการกระตุ้นโดยวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา

นายลอวเรนซ์ ยัง (Laurence Young) นักไวรัสวิทยา และอาจารย์ในสาขาวิชามะเร็งวิทยาระดับโมเลกุล จากมหาวิทยาลัยวอร์วิก (Warwick University) ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แอฟริกา มีการมีการกลายพันธุ์เกิดขึ้นหลายครั้งในส่วนของสไปก์ โปรตีน

“การกลายพันธุ์ในส่วนของ Spike Protein ที่เกิดขึ้นอย่างสะสมในไวรัสสายพันธุ์จากแอฟริกาใต้นั้น เป็นเรื่องที่น่ากังวล และอาจนำไปสู่การที่ไวรัสชนิดดังกล่าว สามารถหลบหลีกระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้” นายยัง กล่าว

บรรดานักวิทยาศาสตร์ รวมถึง นายอูกูร์ ซาฮิน (Ugur Sahin) ประธานบริหารของ บริษัท ไบออนเทค (BioNTec) และนายจอห์น เบลล์ (John Bell) ราชศาสตราจารย์ด้านแพทยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า พวกเขากำลังทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนในการต้านไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ และกล่าวอีกว่า พวกเขาสามารถทำการปรับเปลี่ยนที่มีความจำเป็นกับวัคซีนได้ ภายในเวลาประมาณ 6 สัปดาห

หน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษ ระบุว่า ยังคงไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะไม่สามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีสาธารณสุขของอังกฤษยังคงไม่ตอบคำถามส่วนนี้โดยทันที

ขณะที่บรรดาประเทศที่มีความมั่งคั่งที่สุดในโลก ต่างกำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนของตนเอง จากโรคระบาดที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 1.8 ล้านคน และสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจโลก

จนถึงขณะนี้ มีผู้ที่ทำการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา 60 ราย ซึ่งรวมถึงบริษัทที่มีการเปิดตัววัคซีนไปแล้ว อย่าง แอสตร้าเซเนก้า (AstraZeneca) - มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer-BioNTec) โมเดิร์นา (Moderna) สปุตนิก วี (Sputnik V) จากรัสเซีย และซิโนฟาร์ม (Sinopharm) จากจีน
นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แอฟริกาใต้และอังกฤษนั้น มีความหนาแน่นของอนุภาคไวรัสในร่างกายของผู้ป่วยมากกว่าชนิดธรรมดา ​ซึ่งนำไปสู่การแพร่กระจายเชื้อที่สูงขึ้น

ราชศาสตราจารย์เบลล์ จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของชุดทำงานเฉพาะกิจของรัฐบาลอังกฤษ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า เขาคาดว่าวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา จะสามารถป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์ที่พบในอังกฤษได้ แต่ยังคงเป็นคำถามสำหรับการป้องกันไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาใต้

ด้าน นายอูกูร์ ซาฮิน จากบริษัทไบออนเทค ได้กล่าวในบทสัมภาษณ์ ซึ่งตีพิมพ์ลงในนิตยสารเดอ สปีเกิล (Der Spiegel) ของเยอรมนี ฉบับวันศุกร์ที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า วัคซีนชนิด mRNA ของไบออนเทค ซึ่งเป็นการบรรจุข้อมูลเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนา อาจมีความสามารถในการป้องกันไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ชนิดที่พบในอังกฤษได้

“เรากำลังทำการทดสอบ เพื่อดูว่าวัคซีนของเราจะสามารถต่อต้านไวรัสสายพันธุ์นี้ได้หรือไม่ โดยเราจะทราบรายละเอียดเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้” นายซาฮิน กล่าว

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ ที่นี่

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080 

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ ที่นี่

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้ ที่นี่

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ facebook.com/sbsthai



Share

Published

Updated

Presented by Tinrawat Banyat
Source: Reuters, SBS

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand
นักวิทย์ฯ​ หวั่นวัคซีนโควิดไม่ได้ผลกับเชื้อกลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้ | SBS Thai