ขณะนี้เหลือวีซ่าอะไรบ้างที่จะให้ท่านมาออสเตรเลียได้

วีซ่าต่างๆ นั้นไม่ได้จะเท่าเทียมกันไปเสียทั้งหมด: สรุปวีซ่าเพื่อเข้าประเทศออสเตรเลียแปดประเภท จากระดับแพลตินั่มจนถึงสุดสามัญ

Woman with passport visa boarding pass Source: Getty Images

วีซ่าที่ดีที่สุดในการมาประเทศออสเตรเลีย

“เรามีที่ราบกว้างใหญ่มากมายไว้แบ่งปัน” เป็นวรรคหนึ่งของเพลงชาติออสเตรเลีย แต่การแบ่งปันนั้นก็มีข้อแม้ที่หนักหน่วงพอสมควร

ประเทศออสเตรเลียถูกระบุว่าจะมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นถึง 40 ล้านคนในปี ค.ศ. 2050 ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุมาจากนโยบายการรับผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน

อย่างไรก็ตาม ประเทศออสเตรเลียก็อาจดูเหมือนประตูที่ปิดลงในสายตาของหลายๆ คน เนื่องจากการเข้าใช้ระบบวีซ่าของออสเตรเลียนั้นซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอๆ ตลอดจนเป็นเรื่องที่กินเวลา และบ่อยครั้งก็มีค่าใช้จ่ายสูง (ในปี ค.ศ. 2016 – 2017 กระทรวงมหาดไทยออสเตรเลียรับเงินเฉพาะค่าวีซ่าอย่างเดียวเป็นจำนวนถึง $2 พันล้านดอลลาร์)

เมื่อกล่าวถึงเรื่องวีซ่า สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นคือตัวบุคคลแต่ละคน—ทนายความด้านการตรวจคนเข้าเมืองคุณ ปีเตอร์ พาพาโดพูลอส เผยกับเอสบีเอส—มันไม่จำเป็นเสมอไปว่าท่านถือวีซ่าชนิดใดอยู่ สิ่งที่สำคัญก็คือเงื่อนไขต่างๆ ที่ผูกติดอยู่กับวีซ่านั้นๆ ผู้ที่โชคดีที่สุดจะสามารถถือวีซ่าที่จะนำไปสู่การเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรซึ่งมีสิทธิที่จะมีผู้ติดตาม สิทธิในการทำงาน และสิทธิเข้าระบบการดูแลสุขภาพ ส่วนในอีกฝั่งหนึ่งนั้นจะเป็นการให้ความช่วยเหลือเพื่อคุ้มครองตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งมีความไม่มั่นคงและมีจำนวนจำกัดอย่างมาก จนแม้แต่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) นั้นก็ยังทำการวิพากษ์วิจารณ์

มีการออกวีซ่าด้านมนุษยธรรมเป็นจำนวน 13,760 วีซ่า ในปี ค.ศ. 2016-17 โดยที่ประเทศซีเรีย อิรัก และ เมียนมาร์ เป็นประเทศที่มาของผู้อพยพที่ใหญ่ที่สุด

ต่อไปนี้ เป็นทางเลือกของวีซ่าต่างๆ แปดกลุ่ม จากกลุ่มที่ดีที่สุดไปจนถึงที่แย่ที่สุด

วีซ่าทักษะอิสระ (SKILLED INDEPENDENT visa) ซับคลาส (ประเภทย่อย) 189

คุณลีแอน สตีเฟนส์ ตัวแทนการอพยพย้ายถิ่นฐานและรองประธานระดับชาติของสถาบันการอพยพย้ายถิ่นฐานแห่งออสเตรเลีย กล่าวว่า วีซ่านี้ เป็น “ตั๋วระดับแพลตินั่ม” เพราะผู้ที่ถือวีซ่านี้ จะสามารถเดินทางเข้าประเทศได้หลายครั้ง และสามารถอยู่อาศัยและทำงานในออสเตรเลียได้ด้วย โดยจำเป็นจะต้องพำนักในออสเตรเลียเป็นเวลาสองถึงห้าปีจึงจะสามารถต่อวีซ่านี้ได้อีกครั้งละห้าปี หรือมิฉะนั้นท่านก็อาจเลือกที่จะพักอยู่ในออสเตรเลียเป็นเวลาสี่ปีติดต่อกัน เพื่อที่จะมีสิทธิ์เข้าถือสัญชาติออสเตรเลีย

ผู้ยื่นขอวีซ่า 189 จำเป็นจะต้องมีอายุต่ำกว่า 45 ปี และจะต้องได้รับเชิญให้ทำการทดสอบแต้มคะแนนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (points-tested) ในปัจจุบัน วีซ่านี้มีน้อยลง เนื่องจากจำนวนของอาชีพทักษะประเภทถาวรนั้นน้อยลง แต่ก็ยังคงมีช่างไฟฟ้า ช่างไม้ วิศวกร พยาบาล แพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เดินทางมายังประเทศออสเตรเลียด้วยวิธีนี้อยู่

ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $3670 ดอลลาร์ ระยะเวลาพิจารณา: ภายใน 12 เดือน

วีซ่าคู่ครอง (PARTNER visa) ซับคลาส 801

เกณฑ์การพิจารณาของวีซ่านี้มีเพียงข้อเดียว นั่นก็คือท่านจำเป็นจะต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างแท้จริง โดยที่วีซ่านี้มีผู้รอคอยอยู่เป็นจำนวนมาก และขั้นตอนการสมัครนั้นละเอียดลออและเป็นส่วนตัวอย่างมาก หากท่านยื่นขอวีซ่านี้ในประเทศออสเตรเลีย ท่านก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับวีซ่าชั่วคราวเพื่อรอคอยวีซ่าอื่น หรือที่เรียกว่าบริดจิ้งวีซ่า (bridging visa)

ในปีนี้กำลังมีการเปลี่ยนแปลงวีซ่าประเภทนี้เพื่อตอบสนองต่อปัญหาความรุนแรงในครอบครัว

ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $7000 ดอลลาร์ ระยะเวลาพิจารณา: ประมาณ 23 เดือน

วีซ่านักลงทุนสินทรัพย์มูลค่ามาก (SIGNIFICANT INVESTOR visa) ซับคลาส 188

ท่านจำเป็นจะต้องลงทุนในประเทศออสเตรเลีย โดยรักษามูลค่าให้ไม่ต่ำกว่าที่ระดับ $5 ล้านดอลลาร์อยู่ตลอดเวลา กลุ่มเป้าหมายหลักของวีซ่านี้คือประเทศจีน ท่านและครอบครัวสามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศได้โดยไม่มีข้อจำกัด แต่วีซ่านี้เป็นวีซ่าชั่วคราว ท่านอาจไม่ได้เป็นผู้อยู่อาศัยถาวร และท่านอาจถูกเก็บภาษีโดยทั้งสองประเทศอีกด้วย

ค่าใช้จ่าย $585 ดอลลาร์ และเงินลงทุนมูลค่า $5 ล้านดอลลาร์ ระยะเวลาพิจารณา: ไม่ทราบข้อมูล

วีซ่าคุ้มครองถาวร (PERMANENT PROTECTION visa) ซับคลาส 866

เป็นวีซ่าสำหรับผู้ขอลี้ภัยซึ่งเดินทางมาโดยอากาศยาน ท่านมีสิทธิ์เป็นผู้สนับสนุนหรือสปอนเซอร์ (sponsor) ให้กับครอบครัวของท่าน มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองโดยถาวร มีสิทธิ์เข้าถือสัญชาติออสเตรเลีย ตลอดจนได้รับบริการช่วยเหลือในการตั้งรกรากอย่างเต็มที่ และยังได้รับสิทธิ์อื่นๆ เช่นเดียวกับพลเมืองชาวออสเตรเลียทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม 90 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ขอลี้ภัยนั้นเดินทางมายังประเทศออสเตรเลียโดยทางทะเล

ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $35 ดอลลาร์ ระยะเวลาพิจารณา: ไม่แน่นอน แต่ใช้เวลานาน

วีซ่าทักษะขาดแคลนประเภทชั่วคราว (TEMPORARY SKILL SHORTAGE visa) ซับคลาส 482

ก่อนหน้านี้เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อวีซ่า 457 ซึ่งปัจจุบันมีราคาแพงขึ้น เข้มงวดขึ้นและมีจำนวนอาชีพที่น้อยลง ทักษะของท่านจำเป็นจะต้องอยู่บนรายชื่ออาชีพทักษะขาดแคลนประเภทชั่วคราว ท่านจะได้รับวีซ่าเป็นเวลาสองปี โดยไม่สามารถยื่นขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรได้

ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $1150 ดอลลาร์ และต้องชำระเพิ่มอีก $750 ทั้งยังมีค่าเรียกเก็บรายปีอีก $1800 ต่อปี ซึ่งนายจ้างจำเป็นต้องชำระ ระยะเวลาพิจารณา: ขณะนี้ไม่มีข้อมูล

Source: CBS/Universal Television

วีซ่าญาติคนสุดท้าย (REMAINING RELATIVE visa) ซับคลาส 115

เป็นวีซ่าถาวรสำหรับผู้ที่ไม่มีญาติใกล้ชิดหลงเหลืออยู่อีกแล้วยกเว้นญาติในประเทศออสเตรเลีย ขณะนี้วีซ่านี้ต้องรอคอยนานถึง 56 ปี และผู้ที่ยื่นขอวีซ่านี้ในประเทศออสเตรเลียจะไม่ได้รับสิทธิ์ในการทำงานโดยอัตโนมัติ ทำให้ท่านอาจจำเป็นต้องพึ่งพาญาติของท่านในออสเตรเลียเป็นเวลายาวนาน

ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ $3945 ดอลลาร์ ระยะเวลาพิจารณา: ยาวนานมาก อาจถึง 56 ปี

วีซ่าท่องเที่ยว (VISITOR visa) ซับคลาส 651

วีซ่าท่องเที่ยวอี (eVisitor visa) เป็นวีซ่าระยะสั้น ที่ใช้เวลาพิจารณาเพียง 1 วันทำการเท่านั้น แต่ทว่าวีซ่านี้ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ที่จะช่วยให้ผู้ยื่นขอนั้นอยู่อาศัยในออสเตรเลียเป็นระยะยาวได้ หากประเทศของท่านมีความเสี่ยงสูง ท่านก็จะได้วีซ่าที่มีระยะเวลาเพียงสามเดือนและจะไม่มีสิทธิ์ในการทำงาน

ค่าใช้จ่าย: ฟรี ระยะเวลาพิจารณา: 24 ชม.

วีซ่าคุ้มครองชั่วคราว (TEMPORARY PROTECTION visa) ซับคลาส 785

เป็นวีซ่าสำหรับผู้ขอลี้ภัยซึ่งเดินทางมาโดยเรือ มีทางเลือกในกลุ่มนี้เพียงสองตัวเลือกเท่านั้น คือวีซ่าทีพีวี (TPV) นี้ ซึ่งมีระยะเวลาสามปีและเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง และวีซ่า เซฟ เฮเวน เอนเตอร์ไพรส์ (Safe Haven Enterprise) ซึ่งมีระยะเวลาห้าปีโดยมีสิ่งจูงใจก็คือการเข้าทำงานในพื้นที่ชนบทของประเทศออสเตรเลีย

วีซ่าทีพีวี จะไม่มีหนทางเพื่อเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรใดๆ ทั้งสิ้น และไม่มีสิทธิประโยชน์ที่จะสามารถรวบรวมญาติของท่านมาอยู่อาศัยด้วยกัน ตลอดจนสิทธิประโยชน์อื่นๆ นั้นก็มีน้อย

ค่าใช้จ่าย: $35 ดอลลาร์ ระยะเวลาพิจารณา: ไม่แน่นอน