Man stands in front of tree.
Man stands in front of tree.
This article is more than 2 years old

Feature

นักศึกษาโหมทำงานหารายได้ก่อนกฎจำกัดชั่วโมงทำงานจะกลับมา

ขณะที่นักศึกษามหาวิทยาลัยเตรียมตัวรับการเปิดภาคเรียนใหม่ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่านักศึกษาหลายคนกำลังโหมทำงานหลายงาน เพื่อหารายได้ให้พอกับค่าใช้จ่ายที่พุ่งขึ้นและจุนเจือครอบครัว ก่อนกฎการจำกัดชั่วโมงทำงานของนักเรียนที่ถือวีซ่าจะกลับมาใช้บังคับอีกครั้ง

Published

By Rayane Tamer, Sandra Fulloon
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS
Image: ซัดมาน อาราฟัต นักเรียนต่างชาติ ทำงาน 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อให้มีรายได้เพียงพอในช่วงวิกฤติค่าครองชีพในออสเตรเลียพุ่ง (Supplied / Sadman Arafat)
ซัดมาน อาราฟัต ใช้เวลาทั้งกลางวันและกลางคืนโหมทำงานหารายได้อย่างหนักในช่วงที่มหาวิทยาลัยปิดภาคเรียน เพื่อให้มีรายได้พอจ่ายค่าที่พัก

นักศึกษาต่างชาติวัย 21 ปีรายนี้ทำงานเฉลี่ย 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยทำงานจนแทบหมดแรงจากการรับออเดอร์และเสิร์ฟอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น

"สถิติสูงสุดของผมคือ ทำงานเกือบ 75 ชั่วโมงในหนึ่งสัปดาห์" ซัดมาน กล่าว

ซัดมานมายังออสเตรเลียในเดือนธันวาคม 2021 จากประเทศบังกลาเทศ หลังการเปิดพรมแดนให้นักศึกษาต่างชาติเนื่องจากข้อจำกัดด้านโควิด-19 ได้ผ่อนคลายลง

ข้อจำกัดชั่วโมงทำงานของผู้ถือวีซ่านักเรียนถูกยกเลิกชั่วคราว เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนกำลังแรงงานในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เมื่อปลายปีที่แล้วรัฐบาลสหพันธรัฐได้ประกาศจะกลับมาจำกัดชั่วโมงการทำงานของผู้ถือวีซ่านักเรียนดังเดิมตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน โดยก่อนหน้านี้ผู้ถือวีซ่านักเรียนสามารถทำงานได้ไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์
ในคำแถลงถึงเอสบีเอส นิวส์ กระทรวงกิจการภายใน (Department of Home Affairs) ยืนยันว่าการจำกัดชั่วโมงทำงานจะกลับมาใช้บังคับอีกครั้ง แต่จะทบทวนจำนวนชั่วโมงที่จำกัดสำหรับสองสัปดาห์ หลังการปรึกษาหารือกับตัวแทนองค์กรที่เกี่ยวข้องว่ากี่ชั่วโมงจึงจะเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ถือวีซ่านักเรียน

"จำนวนชั่วโมงจะถูกกำหนดหลังจากการปรึกษาหารือกับตัวแทนองค์กรต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรมและภาคการศึกษา เพื่อสร้างสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการทำงานและการเรียน และจะแจ้งให้นักศึกษาทราบก่อนที่การเปลี่ยนแปลงจะมีผลบังคับใช้" โฆษกกระทรวงกล่าว

สำหรับตอนนี้ เหลือเวลาไม่มากแล้วที่นักศึกษาอย่างซัดมานจะเก็บออมเงินให้ได้มากที่สุดก่อนที่ภาคเรียนแรกของมหาวิทยาลัยจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า

ซัดมานไม่ทราบมาก่อนว่าเขาจะถูกบังคับให้ลดชั่วโมงทำงานลง จนกระทั่งเอสบีเอส นิวส์ แจ้งเรื่องนี้ให้เขารู้ และเขารู้สึกว่าไม่มีการแจ้งข่าวนี้ไปยังนักศึกษาต่างชาติอย่างเพียงพอ

เขาบอกว่าข่าวนี้ "ทำให้ผมตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก"

“จุดประสงค์หลักของผมที่นี่คือการเรียน แต่ผมสามารถตัดชั่วโมงการทำงานได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผมจำเป็นต้องหารายเงินให้ถึงจำนวนขั้นต่ำที่ผมต้องมีเพื่อความอยู่รอด” ซัดมานกล่าว

ความอ่อนล้าส่งผลให้เขาไม่ค่อยอยากอาหาร สุขภาพจิตของเขาได้รับผลกระทบ และกังวลอยู่ตลอดเวลาว่าเขาพยายามรักษาผลการเรียนให้ดีต่อไปได้อย่างไร
ผมจำเป็นต้องหารายเงินให้ถึงจำนวนขั้นต่ำที่ผมต้องมีเพื่อความอยู่รอด
ซัดมาน อาราฟัต
โฆษกกระทรวงกิจการภายในกล่าวว่า ข้อจำกัดชั่วโมงการทำงานดังกล่าวจะช่วย "ปกป้องคุณภาพและชื่อเสียงของภาคการศึกษาและการฝึกอบรมสำหรับนักเรียนต่างชาติของออสเตรเลีย" และเพื่อให้ได้รับการศึกษาที่ "มีคุณภาพ"

'มันเหนื่อยล้า แต่เราไม่มีทางเลือกอื่น'

ต่างจากซัดมานตรงที่ มาดูห์ ดาโมดาราซามี รู้มาก่อนแล้วถึงการจะกลับมาจำกัดชั่วโมงทำงานของนักศึกษาต่างชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น และเธอรู้สึกหวาดหวั่นเมื่อการจำกัดชั่วโมงการทำงานจะกลับมาอีกครั้ง

มาดูห์ เป็นนักศึกษาต่างชาติจากอินเดีย ซึ่งกำลังเรียนปริญญาโทด้านการจัดการวิศวกรรมในปีสุดท้าย และเธอทำงาน 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงปิดภาคเรียน

เธอจะบอกว่าแม้ชั่วโมงทำงานของเธอจะส่งผลให้เธอ "ค่อนข้างเหนื่อยล้า" แต่มันเป็นทางออกเดียวที่เธอจะมีเงินจ่ายค่าเช่าที่พัก ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 700 ดอลลาร์ต่อเดือนเป็นเกือบ 1,000 ดอลลาร์ภายในหนึ่งปี อีกสิ่งที่เธอวิตกอยู่ในใจด้วยก็คือใบสมัครขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร ซึ่งเธอบอกว่าเป็นเงิน 3,500 ดอลลาร์ที่เธอจะต้องหามาจ่าย

“หลังจากทำงานสองกะอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 11 โมงถึง 5 ทุ่ม ฉันกลับไปที่มหาวิทยาลัยและต้องอ่านหนังสือจนถึงตี 1 เป็นอย่างต่ำเพื่อทำการบ้านหรือทำรายงาน” มาดูห์ กล่าว

อีกไม่ถึง 6 เดือน เธอจะถูกบังคับให้ลดรายได้ที่มีลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎของรัฐบาล ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือให้ได้กับวิกฤตค่าครองชีพในออสเตรเลีย

"มันเหนื่อยล้า แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นเพราะค่าใช้จ่ายสูงไปเสียทุกอย่าง" มาดูห์ กล่าว

เนานิฮาล ซิงห์ นักเรียนต่างชาติชาวอินเดียอีกคนหนึ่ง ทำงาน 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยจัดวางสินค้าบนชั้นวางขายในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งในเมลเบิร์น
Naunihal Singh standing in a Melbourne supermarket.
เนานิฮาล ซิงห์ นักเรียนต่างชาติชาวอินเดียอีกคนหนึ่ง ที่ทำงานจัดวางสินค้าบนชั้นวางขายในร้านซูเปอร์มาร์เก็ต Credit: SBS / Scott Cardwell
“ตั้งแต่ผมทำงานในซุปเปอร์มาร์เก็ต ผมก็ได้เห็นราคาสิ่งต่างๆ ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง” เนานิฮาล กล่าว

“และเงินเดือนก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ เพียงเพราะอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ดังนั้นการบริหารรายได้จึงยากขึ้น"

เช่นเดียวกับ มาดูห์ เนานิฮาล และนักเรียนต่างชาติหลายคนหวังว่าจะอยู่ต่อในออสเตรเลียและกลายเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรหรือศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น

“ตอนนี้ผมทำงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเก็บออมเงิน เพราะผมรู้ว่าข้อจำกัดต่างๆ จะกลับมาในเร็วๆ นี้แล้ว” เนานิฮาล กล่าว

ในขณะที่บางภาคส่วนจ่ายค่าจ้างเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่มูลค่าที่แท้จริงของค่าจ้าง (real wage) เพิ่มขึ้นเพียง 3.1 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาหนึ่งปีที่สิ้นสุดในเดือนกันยายน 2022 ตามรายงานของสำนักสถิติแห่งออสเตรเลีย แต่ก็ถูกแซงหน้าอย่างง่ายดายจากอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งสูงแตะ 7.8 เปอร์เซ็นต์ในช่วงหนึ่งปีจนถึงเดือนธันวาคม โดยเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา

“อัตราค่าจ้างของผมเกือบจะเท่าเดิมเหมือนกับตอนที่ผมเริ่มทำงาน (ในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว) แต่ค่าเช่าของผมสูงขึ้น ค่าน้ำมันของผมสูงขึ้น และค่าครองชีพของผมก็สูงขึ้น นอกเหนือไปจากค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัย ซึ่งก็สูงขึ้นเช่นกัน "ซัดมาน กล่าว

เยกาเนห์ ซอลแทนพูร์ ซึ่งเป็นประธานระดับชาติของสภานักศึกษานานาชาติแห่งออสเตรเลียกล่าวว่า นักศึกษาต่างชาติบางคนประสบปัญหาในการใส่ใจเรื่องการเรียนที่มหาวิทยาลัย เพราะพวกเขากำลังทำงานหลายงาน

"ฉันรู้จักนักศึกษาหลายคนที่กำลังทำงานหลายชั่วโมงอย่างหามรุ่งหามค่ำ เพื่อให้มีเงินพอใช้" เยกาเนห์ กล่าว

"บางคนทำงานฟูลไทม์ระหว่างเรียน และบางคนทำกะพิเศษในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ปั๊มน้ำมัน หรือขับรถรับส่งผู้โดยสารในตอนกลางคืนและเรียนหนังสือไปด้วย”

"ด้วยวิกฤตค่าเช่าและค่าครองชีพในปัจจุบัน นี่คือความเป็นจริงสำหรับนักศึกษาจำนวนมาก"
A graph showing the top 10 countries of origin for international students in Australia in 2022
กราฟแสดงประเทศต้นทาง 10 อันดับแรกสำหรับนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลียในปี 2022 Source: SBS
Ms Soltanpour, who migrated from the United Arab Emirates, believes overwork is one reason many students turn to services like ChatGPT to complete their assignments.

"ฉันคิดว่ามันยากลำบากขึ้นสำหรับนักศึกษาส่วนใหญ่ และเรื่องนี้อาจทำให้เกิดความทุกข์ใจได้ หากพวกเขาไม่สามารถรักษาผลการเรียนที่ดีไว้ได้"

เมื่อภาคเรียนใหม่เริ่มต้นขึ้น ซัดมาน มาดูห์ และเนานิฮาล ต่างกล่าวว่าพวกเขาจะลดชั่วโมงทำงานลงเหลือประมาณ 25-35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพื่อพุ่งความสนใจไปที่การเรียน
Naunhial packing fruit into a display case.
“ตอนนี้ผมทำงานให้มากที่สุดเพื่อเก็บออมเงิน เพราะผมรู้ว่าข้อจำกัดจะกลับมาในเร็วๆ นี้แล้ว” เนานิฮาล กล่าว Credit: SBS / Scott Cardwell
นักเรียนต่างชาติคนอื่นๆ ต้องเผชิญกับแรงกดดันที่สูงขึ้น บางครอบครัวขายบ้านของครอบครัวเพื่อจ่ายค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัย และคาดหวังให้นักศึกษาเหล่านี้ส่งเงินกลับไปให้ครอบครัวในประเทศบ้านเกิด

คุณฟิล ฮันนีย์วูด ซีอีโอของสมาคมการศึกษานานาชาติแห่งออสเตรเลีย กล่าวว่านักเรียนต่างชาติบางคนทำงานหนักจนเกินไป

“ออสเตรเลียมีนักเรียนจำนวนมากจากแถบเอเชียใต้ คือ อินเดีย เนปาล และศรีลังกา บางคนทำงานหลายงานและทำงานมากถึง 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์" คุณฮันนีย์วูด กล่าว

“อย่างไรก็ตาม เราทราบดีว่าหลายคนประสบปัญหาสุขภาพจิตจากครอบครัวทางบ้านที่บอกว่า 'ถ้าลูกสามารถหาเงินได้มากมายขนาดนั้นโดยทำงานอย่างไม่จำกัดชั่วโมงขณะที่ลูกควรจะเรียนเต็มเวลา ถ้าเช่นนั้นลูกก็สามารถส่งเงินกลับมาให้บ้านได้”

'ความคาดหวังที่สูง': นักเรียนเผชิญกับแรงกดดันให้ส่งเงินกลับบ้าน

คุณฮันนีวูดกล่าวว่า ในการขอวีซ่านักเรียนนั้นผู้สมัครต้องพิสูจน์ว่าสามารถจ่ายค่าเล่าเรียนและช่วยเหลือตนเองได้ แต่บางครอบครัวคาดหวังให้นักเรียนทำงานหารายได้ต่อไป และการแบ่งเวลาเพื่อเรียนเต็มเวลาและทำงานไปด้วยก็สามารถสร้างความเครียดแก่นักเรียนได้

“ถ้าเราทำงานพาร์ทไทม์สองหรือสามงานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน แรงกดดันที่มีต่อตนเองนั้นมหาศาลอย่างยิ่ง” คุณฮันนีวูด กล่าว

ดร. มาธวี โมฮินดรา มีคลินิกส่วนตัวให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตแห่งหนึ่งในซิดนีย์ และให้คำปรึกษาทางสุขภาพจิตแก่นักศึกษามหาวิทยาลัย 3-4 คนในแต่ละสัปดาห์

ดร. โมฮินดรา ย้ายถิ่นฐานจากอินเดียตอนเหนือมายังออสเตรเลียในปี 2009

“ในฐานะผู้อพยพจากอินเดีย ฉันเข้าใจวัฒนธรรมและพิธีกรรมของอินเดีย ฉันรู้จักคนหนุ่มสาวบางคนที่กำลังศึกษาอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งครอบครัวของพวกเขาคาดหวังว่าตั้งแต่วันแรกเลยว่าพวกเขาจะส่งเงินกลับบ้าน" ดร. โมฮินดรา กล่าว
Dr Madhvi Mohindra photo.
ดร. มาธวี โมฮินดรา Credit: Dr Madhvi Mohindra
"ญาติๆ ของพวกเขารู้ว่าค่าจ้างของออสเตรเลียนั้นสูงกว่ามาก และค่าของเงินดอลลาร์แข็งค่ากว่ารูปีของอินเดียมาก ... ครอบครัวชาวอินเดียบางครอบครัวได้เสียสละมากมายเพื่อส่งลูกไปออสเตรเลีย บางทีก็ขายบ้านของครอบครัวเพื่อจ่าย ค่าเล่าเรียน ดังนั้นความคาดหวังจึงสูง”

เมื่อข้อจำกัดด้านการแพร่ระบาดของโควิดคลี่คลายลง นักเรียนต่างชาติกำลังหลั่งไหลกลับมายังออสเตรเลีย โดยภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษามีจำนวนการลงทะเบียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมามีการอนุมัติวีซ่าให้นักเรียน 334,262 คน ซึ่งเพิ่มขึ้น 23 เปอร์เซ็นต์จากระดับช่วงก่อนเกิดโควิด

“การอนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติทำงานเป็นการเพิ่มพูนทักษะที่มีค่าให้แก่กำลังแรงงานออสเตรเลีย ขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มประสบการณ์ทางสังคมและการศึกษาของนักศึกษาในระหว่างที่พำนักในออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม การทำงานควรเป็นส่วนเสริมในการศึกษาเสมอ” โฆษกกระทรวง กล่าว

เมื่อเร็วๆ นี้ จีนห้ามพลเมืองไม่ให้เรียนออนไลน์ที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศ จึงส่งผลให้นักศึกษาจีนมากถึง 40,000 คนเดินทางกลับออสเตรเลียเพื่อเรียนต่อให้จบ

ในปี 2022 จีนเป็นประเทศต้นทางชั้นนำสำหรับนักศึกษาต่างชาติในออสเตรเลีย โดยมีนักศึกษาจีน 155,348 คน ตามมาด้วยอินเดีย (99,739 คน) และเนปาล (56,847 คน)

บทความนี้จัดทำขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างเอสบีเอส นิวส์ และเอสบีเอส ปัญจาบี


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 
sbs.com.au/thai

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ facebook.com/sbsthai

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand