VIC พบติดโควิดในรอบเกือบเดือน ประกาศมาตรการสกัดเชื้ออีกรอบ

รัฐวิกตอเรียพบเคสโควิดรายแรกหลังทำสถิติเคสโควิดเป็นศูนย์มาได้แล้ว 28 วัน กลับมาประกาศมาตรการสกัดโควิดอีกครั้ง หลังพนักงานโรงแรมกักโรคติดเชื้อ จนท.สืบวุ่นหลังพบผู้เข้ากักตัวในห้องติดกันอีกโรงแรมติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์จากอังกฤษ

Victorian Premier Daniel Andrews addresses the media during a press conference in Melbourne, Monday, December 21, 2020. (AAP Image/James Ross) NO ARCHIVING

Victorian Premier Daniel Andrews. Source: AAP

ประเด็นสำคัญ

  • รัฐวิกตอเรียพบพนักงานโรงแรมกักกันโรคติดเชื้อเป็นรายแรก หลังไม่พบเคสโควิดรายใหม่ในท้องถิ่นมาได้ 28 วัน
  • ตั้งแต่ 23:59 น. ของวันที่ 3 ก.พ. รัฐวิกตอเรียประกาศใช้มาตรการสกัดโควิดอีกครั้ง บังคับสวมหน้ากากในร่มและในอาคาร รวมกลุ่มในบ้านได้ไม่เกิน 15 คน
  • เจ้าหน้าที่ยังคงหาสาเหตุการติดเชื้อ หลังผู้เข้ารับการกักตัวในโรงแรมแห่งหนึ่งอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนาข้ามมาจากอีกห้อง

เมื่อวานนี้ (3 ก.พ.) เจ้าหน้าที่พบพนักงานในโรงแรมกักกันโรครัฐวิกตอเรียติดเชื้อไวรัสโคโรนา 1 ราย ทำให้รัฐบาลรัฐวิกตอเรียประกาศใช้มาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่ร่มอีกครั้ง และปรับลดจำนวนผู้คนสูงสุดที่สามารถรวมกลุ่มได้ หลังก่อนหน้านี้ไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ในท้องถิ่นติดต่อกันเป็นเวลาถึง 28 วัน

หน่วยงานสาธารณสุขและบริการมนุษย์รัฐวิกตอเรีย (DHHS) ได้เปิดเผยผลการตรวจหาของพนักงานคนดังกล่าวเมื่อคืนวานนี้ โดยระบุเพิ่มเติมว่า ทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนกรณีการติดเชื้อดังกล่าว ขณะที่ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่แล้ว
นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายล่าสุดนี้เป็นชายวัย 26 ปีจากเมืองโนเบิล พาร์ค (Noble Park) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของนครเมลเบิร์น ซึ่งทำงานเป็นผู้ให้การสนับสนุนดูแลในโครงการกักกันโรคสำหรับการแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียน โอเพน 

การติดเชื้อของชายคนดังกล่าว ทำให้หน่วยงานสาธารณสุขฯ​ ประกาศพื้นที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ (exposure site) โดยผู้ใดก็ตามที่เดินทางไปยังพื้นที่เหล่านี้ ในวันและเวลาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้ท่านมารับการตรวจหาเชื้อทันที และกักกันตนเองเป็นเวลา 14 วัน 

    • Club Noble ในเมือง Noble Park ตั้งแต่เวลา 14:36 – 15:30 น. ของวันที่ 30 ม.ค.
    • Aces Sporting Club (Driving Range) ในเมือง Keysborough ตั้งแต่เวลา 22:00 น. - 23:15 น. ของวันที่ 30 ม.ค.
    • Northpoint Café ในเมือง Brighton ตั้งแต่เวลา 8:10 - 9:30 น.  ของวันที่ 31 ม.ค.
    • ห้างสรรพสินค้า Kmart สาขา Keysborough ตั้งแต่เวลา 16:00 - 17:00 น. ของวันที่ 31 ม.ค.
    • ห้างสรรพสินค้า Kmart สาขา Brandon Park ตั้งแต่เวลา 16:35 - 17:10 น. ของวันที่ 31 ม.ค.
    • ห้างสรรพสินค้า Coles สาขา Springvale ตั้งแต่เวลา 17:00 - 18:00 น. ของวันที่ 31 ม.ค.
    • ร้านวัสดุก่อสร้าง Bunnings สาขา Springvale ตั้งแต่เวลา 11:30 - 12:15 น. ของวันที่ 1 ก.พ.
    • Golf Academy ในเมือง Heatherton ตั้งแต่เวลา 17:19 - 18:30 น. ของวันที่ 1 ก.พ.
    • Lululemon, DFO ในเมือง Moorabbin ตั้งแต่เวลา 17:00 - 17:45 น. ของวันที่ 29 ม.ค.
    • ห้างสรรพสินค้า Woolworths สาขา Springvale ตั้งแต่เวลา 18.30 - 19.30 น. ของวันที่ 29 ม.ค.
    • Nakama Workshop ในเมือง Clayton South ตั้งแต่เวลา 11:15 - 12:00 น. ของวันที่ 1 ก.พ.
    • Sharetea ในเมือง Springvale ตั้งแต่เวลา 18:45 - 19:30 น. ของวันที่ 1 ก.พ.
    • Kebab Kingz ในเมือง West Melbourne ตั้งแต่เวลา 23:24 - 00:15 น. ของวันที่ 1 ก.พ.
    • Exford Hotel ในนคร Melbourne ตั้งแต่เวลา 23:00 - 23:35 น. ของวันที่ 1 ก.พ.
นอกจากการประกาศเตือนพื้นที่สัมผัสเชื้อดังกล่าวแล้ว นายแอนดรูส์ระบุว่า รัฐวิกตอเรียได้กลับมาประกาศใช้มาตรการจำกัดที่ได้ยกเลิกไปก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เวลา 23:59 น. ของวันที่ 3 ก.พ.นี้เป็นต้นไป โดยการรวมกลุ่มภายในบ้านสามารถทำได้เพียงไม่เกิน 15 คน และบังคับสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ร่ม หรือภายในอาคารสถานที่ต่าง ๆ

ขณะที่แนวทางการกลับไปทำงานตามปกติในสถานประกอบการ ในอัตราร้อยละ 75 ของความจุสถานประกอบการ ที่มีกำหนดเริ่มต้นในวันจันทร์ที่ 8 ก.พ. นี้ ต้องหยุดลงเป็นการชั่วคราว โดยจะใช้แนวทางในอัตราร้อยละ 50 ของความจุสถานประกอบการ
“นี่เป็นการติดเชื้อเพียงรายเดียว จึงไม่จำเป็นที่ผู้คนจะต้องตื่นตระหนก เราได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดีว่าต้องดำเนินการอย่างไรในระดับรัฐ แต่เราต้องรับมือเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง” นายแอนดรูส์​ กล่าว

เขากล่าวว่า ยังคงไม่มีความชัดเจนว่าชายคนดังกล่าวได้รับเชื้อมาได้อย่างไร รวมถึงยังไม่ทราบว่าเชื้อไวรัสที่ชายคนดังกล่าวได้รับนั้นเป็นสายพันธุ์ใด โดยจนถึงขณะนี้ ชายคนดังกล่าวได้รับการส่งตัวเข้าไปยังโรงแรมด้านสาธารณสุข ขณะที่ผู้สัมผัสใกลชิดกับชายคนดังกล่าวกำลังได้รับการกักโรค

ทั้งนี้ ชายคนดังกล่าวได้ทำงานเป็นครั้งสุดท้ายที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอตต์ (Grand Hyatt Hotel) เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา แต่ผลการตรวจหาในตอนแรกออกมาเป็นลบ จนกระทั่งเขามีอาการแล้วกลับมารับการตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้ง 

จนกระทั่งมีข่าวพบการติดเชื้อออกมา เมื่อคืนวานนี้ (3 ก.พ.) ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าหน้าที่พบการติดเชื้อที่เป็นไปได้ว่าจะเกิดจากการแพร่กระจายระหว่างห้องในโรงแรมพาร์ค รอยัล (Park Royal Hotel) ในนครเมลเบิร์น 

โดยกลุ่มของผู้เข้ารับการกักตัวในโรงแรม 2 กลุ่มซึ่งอยู่ห้องติดกัน พบติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์ B117 ซึ่งพบครั้งแรกในประเทศอังกฤษ และมีความสามารถในการแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าไวรัสชนิดเดิม 

นางลิซา เนวิลล์ (Lisa Neville) รัฐมนตรีตำรวจรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลโครงการโรงแรมกักกันโรคที่ได้รับการปรับปรุงใหม่นี้ กล่าวว่า จากผลการตรวจหาลำดับดีเอ็นเอ พบว่า เป็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดียวกันในทั้ง 2 กรณี

“นั่นเหมือนกับว่า ทั้งสองกรณีอยู่ห้องเดียวกันในโรงแรม” นางเนวิลล์​กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อเช้าวานนี้

โดยผู้ได้รับการกักกันโรคกลุ่มหนึ่ง เป็นครอบครัวซึ่งมีสมาชิก 5 คน ซึ่งตอนนี้ทุกคนติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั้งหมด ได้เดินทางมาถึงออสเตรเลียจากประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา และมีผลการตรวจหาไวรัสโคโรนาเป็นบวกหลังเดินทางมาถึงได้ 4 วัน

ส่วนหญิงวัย 60 ปีอีกคนหนึ่ง ซึ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และได้รับการกักตัวอยู่ในห้องข้าง ๆ เพิ่งจะเริ่มต้นการกักตัว 14 วันเป็นรอบที่ 2 หลังสามีของเธอ ซึ่งเดินทางมาถึงออสเตรเลียในวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้รับผลการตรวจหาเป็นโรคถึง 2 ครั้ง แต่ผลการตรวจหาเป็นบวก เมื่อวันที่ 28 ม.ค.

ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงตั้งข้อสงสัยว่า หญิงวัย 60 ปีคนดังกล่าวติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้อย่างไร แม้ผลการตรวจหาในสามีของเธอด้วยไม้พันสำลี ในวันที่ 3 และวันที่ 11 นั้น มีผลตรวจออกมาเป็นลบ

นางเนวิลล์ กล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณภายนอกห้องพัก แต่ไม่พบการละเมิดขั้นตอนความปลอดภัยใด ๆ ทั้งจากผู้เข้ารับการกักตัวทั้งสองห้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่

“ปริมาณไวรัสในห้องซึ่งครอบครัว 5 คนกักตัวอยู่นั้นอยู่ในระดับสูงมาก ชนิดที่ว่าสามารถแพร่กระจายออกจากห้องมายังโถงทางเดินได้ เพียงแค่คนที่อยู่ข้างในเปิดประตูออกมารับอาหาร แต่นั้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐานในเบื้องต้น” นางเนวิลล์ กล่าว

“เราไม่พบเด็ก ๆ ออกมาวิ่งเล่นบริเวณโถงทางเดินในโรงแรม หรือการเคลื่อนไหวระหว่างห้องเลย”

แต่อย่างไรก็ตาม หญิงวัย 60 ปีที่กักตัวอยู่อีกห้องหนึ่งระบุว่า เธอจำได้ว่าเคยเปิดประตูห้องพร้อมกันกับห้องข้าง ๆ เธอ แต่จำไม่ได้ว่าเกิดขึ้นในวันและเวลาใด

นางเมลานี แวน ทเวสต์ (Melanie Van Twest) รองประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ความเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสรั่วไหลระหว่างห้องนั้น เกิดขึ้นมาจากความสามารถในการแพร่เชื้อสะสมในห้องที่มีสมาชิกครอบครัว 5 คน ประกอบกับความรุนแรงในการแพร่เชื้อของไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษ

“มันอาจเกิดจากช่องโหว่ที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ กระบวนการ จนนำไปสู่เหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ เท่าที่เราทราบในตอนนี้ ยังไม่พบการแพร่ระบาดภายในชุมชน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงแค่ภายในโรงแรมเท่านั้น ซึ่งมันได้รับการจำกัดบริเวณ” นางทเวสต์ กล่าว

โดยเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบระบบระบายอากาศภายในโรงแรมต่อไป ขณะที่นางเนวิลล์ เปิดเผยว่า ในรายงานฉบับก่อนหน้า ไม่พบการแลกเปลี่ยนอากาศระหว่างห้อง หรือระหว่างพื้นที่ส่วนกลางโดยระบบระบายอากาศในโรงแรม

“มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสาเหตุมาจากระบบระบายอากาศ” นางเนวิลล์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อในโรงแรมทุกรายได้รับการส่งตัวไปยังโรงแรมด้านสาธารณสุขแล้ว และยังคงได้รับการกักตัว ขณะที่สามีของหญิงรายหนึ่งที่ติดเชื้อและอยู่ในระหว่างกักโรคนั้นได้รับการแยกตัวให้อยู่อีกห้องแล้ว

พนักงานโรงแรมกักโรคบางส่วนจาก 100 คน และผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศอีก 37 คนที่กักตัวครบ 14 วัน แต่อยู่ในโรงแรมชั้นเดียวกับจุดเกิดเหตุ ขณะนี้กำลังกักตนเองอยู่ในที่พักอาศัย โดยยังไม่มีใครได้รับผลการตรวจหาไวรัสโคโรนาเป็นบวก

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ facebook.com/sbsthai

Share

Published

Updated

Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand
VIC พบติดโควิดในรอบเกือบเดือน ประกาศมาตรการสกัดเชื้ออีกรอบ | SBS Thai