5 สิ่งที่คุณทำได้ตอนนี้ในการรักษาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ

มีประโยชน์หลายอย่างในการรักษาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ และบ่อยครั้งการไม่สามารถทำเช่นนั้นก็อาจส่งผลกระทบกับคุณได้ทั้งร่างกายและจิตใจ

Cette histoire fait partie de l'initiative Mind Your Health de SBS.

เรื่องราวนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Mind Your Health โครงการริเริ่มของ SBS Source: iStockphoto / DisobeyArt/Getty Images/iStockphoto

แอน ไทเดแมน (Prof Anne Tiedeman) ศาสตราจารย์ด้านกิจกรรมร่างกายและสุขภาพจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ กล่าวว่า การออกกำลังการและรับประทานอาหารอย่างสมดุล คือสองสิ่งที่คุณทำได้ทุกวันเพื่อรักษาสุขภาพที่ดี

นอกจากนี้ยังมีสิ่งอื่น ๆ เช่น การจำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และติดต่อกับสังคมอยู่สม่ำเสมอ

1. การออกกำลังกาย

ศาสตราจารย์ไทเดแมน กล่าวว่า มีหลักฐานมากมายที่แสดงว่าการออกกำลังกาย ไม่เพียงแต่จะส่งเสริมสุขภาพร่างกาย จิตใจ และสังคมเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคเมื่อถึงช่วงสูงวัยอีกด้วย

ศาสตราจารย์ไทเดแมน กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราทำในวันนี้หรือในสัปดาห์นี้จะเป็นผลดีในระยะยาว
แล้วแต่ละคนควรออกกำลังกายมากน้อยแค่ไหน ศาสตราจารย์ไทเดแมนได้ชี้ให้เห็นถึงแนวทางขององค์การอนามัยโลก ซึ่งได้ให้คำแนะนำโดยขึ้นอยู่กับช่วงอายุ รวมถึงโรคประจำตัวและภาวะความพิการ

“สาระหลัก ๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกายก็คือมันดีสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุใดหรือความพิการในระดับไหน” ศาสตราจารย์ไทเดแมน กล่าว

“และถึงแม้คุณจะไม่สามารถออกกำลังกายได้ตามระดับที่แนะนำในแนวทางนี้ เรายังทราบจากการวิจัยที่ชัดเจนว่า การออกกำลังกายเท่าใดก็ตามนั้นเป็นผลดี และการออกกำลังกายมากกว่าที่คุณเคยทำเล็กน้อยจะมีผลดีกับสุขภาพของคุณ”

ศาสตราจารย์ไทเดแมน กล่าวอีกว่า การออกกำลังการนั้นสามารถทำได้หลายรูปแบบ และไม่จำเป็นต้องเป็นกีฬาแบบเป็นกิจจะลักษณะ หรือการออกกำลังกายแบบเป็นกลุ่ม

“มันอาจเป็นการออกไปเดินในยามว่าง หรืออาจจะเป็นงานบ้าน ดังนั้นการทำกิจกรรมรอบบ้าน อย่างการทำสวนหรืออะไรทำนองนั้น คือการส่งเสริมสุขภาพ”

2. ควบคุมอาหารอย่างสมดุล

ศาสตราจารย์ไทเดแมน กล่าวว่า การควบคุมอาหารให้สมดุลเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระยะยาว และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วน

โภชนาการที่ดีในมื้ออาหารของคุณเป็นสิ่งที่ดีในการให้พลังงานแก่ร่างกาย เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง และทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า

“สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดสำคัญมาก ทั้งการกิน อาหารที่สมดุล ไม่มีอาหารแปรรูปและน้ำตาลมากเกินไป ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมตอนนี้” ศาสตราจารย์ไทเดแมน กล่าว

แนวทางโภชนาการของออสเตรเลีย (The Australia Dietary Guide) มีข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบและปริมาณของอาหารชนิดต่าง ๆ รวมทั้งหมู่อาหารและแบบแผนโภชนาการ แนวทางดังกล่าวได้เชิญชวนชาวออสเตรเลียให้เพลิดเพลินกับอาหารที่มีคุณค่าหลายรูปแบบจาก 5 หมู่อาหาร พร้อมกับการจำกัดปริมาณอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว มีเกลือหรือน้ำตาลสูง และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

3. จำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮฮล์และงดสูบบุหรี่

“เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญในรูปแบบการใช้ชีวิตสำหรับโรคต่าง ๆ” ศาสตราจารย์ไทเดแมน กล่าว ในเรื่องความจำเป็นในการจำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการงดสูบบุหรี่

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮฮล์มีส่วนทำให้เกิดการเสียชีวิตของผู้คน 3 ล้านคนทั่วโลกในแต่ละปี เช่นเดียวกับความพิการและสุขภาพที่ย่ำแย่ของประชากรอีกนับล้านคน

ข้อมูลจากสถาบันสุขภาพและสวัสดิภาพแห่งออสเตรเลีย (AIHW) แสดงให้เห็นว่า มีผู้เสียชีวิตจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับการบันทึกในปี 2020 จำนวน 1,452 ราย โดยส่วนมากที่ได้รับการบันทึก (ร้อยละ 73) พบเป็นผู้ชาย

แนวทางสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของออสเตรเลีย (The Australian Alcohol Guidelines) ฉบับปรับปรุงปี 2020 ได้กำหนดแนวทางสำหรับการบริโภคเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

สภามะเร็ง (Cancer Council) ยังแนะนำเคล็ดลับ 12 ข้อในการทำลายนิสัยการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งรวมถึงการกำหนดวันปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และดื่มน้ำเพื่อดับความกระหาย

การสูบบุหรี่ได้คร่าชีวิตผู้คนในออสเตรเลียประมาณ 20,500 คนในแต่ละปี (หรือคิดเป็นร้อยละ 13 ของการเสียชีวิตทั้งหมด) และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดภาระโรคในออสเตรเลียในปี 2018 ถึงร้อยละ 8.6

นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ยังลดอายุขัยและคุณภาพชีวิต อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงอีกหลายภาวะทางสุขภาพและหลายโรค เช่นเดียวกับการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

4. เชื่อมต่อกับสังคมอยู่เสมอ

ศาสตราจารย์ไทเดแมน กล่าวอีกว่า ความเหงาเป็น “ปัญหาใหญ่” ในสังคม และเกิดขึ้นได้แม้ว่าบุคคลนั้นจะรายล้อมไปด้วยผู้คน ซึ่งบ่อยครั้งเกิดขึ้นจาก “การขาดการติดต่อ”

“มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกว่าได้เชื่อมต่อกับความผู้ที่อยู่รอบตัว และความรู้สึกได้เชื่อมต่อกับสังคมที่เราอาศัยอยู่” ศาสตราจารย์ไทเดแมน กล่าว

“มันลงมาถึงความรู้สึกว่าคุณมีความหมายบางสิ่งสำหรับคนอื่น และการแสดงให้เห็นว่าคุณแคร์คนอื่น ๆ ความเชื่อมโยงของมนุษย์ทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่สำคัญมาก”

ศาสตราจารย์ไทเดแมน กล่าวว่า ความเชื่อมโยงสามารถบรรลุได้หลายในหลายวิธี เช่น การเป็นอาสาสมัคร และการมีส่วนร่วมอยู่ในชุมชน

“(การเป็นอาสาสมัคร) เป็นอีกทางหนึ่งในการส่งเสริมความเชื่อมโยงทางสังคมกับผู้อื่น การเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มและการมีเป้าหมายร่วมกันอาจเป็นอะไรอย่างหนึ่งก็ได้ ดังนั้นหลายคนจึงพบว่ากีฬาเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ” ศาสตราจารย์ไทเดแมน กล่าว

“คุณมีกีฬาแบบทีม ทุกคนต่างตั้งเป้าไปที่ผลลัพธ์แบบเดียวกัน และเชื่อมต่อกันในลักษณะนั้น”

อย่างไรก็ดี ศาสตราจารย์ไทเดแมน อธิบายว่าสำหรับบางคนก็ชอบอยู่คนเดียว

“ถึงแม้ผู้คนเหล่านี้จะชอบอยู่คนเดียว พวกเขายังคงมีความเชื่อมต่อเหล่านั้นผ่านวิธีอื่น ๆ”

บิยอนด์ บลู (Beyond Blue) ได้แนะนำแนวทางในการเชื่อมต่อกับสังคมด้วยการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง Skype, Zoom, FaceTime และแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น House Party ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนเชื่อมต่อกันผ่านวิดีโอแชท

นอกจากนี้ องค์กรดังกล่าวยังแนะนำให้จัดเวลาในการพบปะพูดคุยทางสังคมเป็นประจำ เช่น ชมรมหนังสือ กิจกรรมคืนตอบคำถามปริศนา มื้อค่ำกับครอบครัว งานปาร์ตี้เต้นรำ หรือเพียงนัดคุยกับเพื่อน ๆ ในช่วงเย็น

5. ถามสารทุกข์สุกดิบกับตนเองและคนที่คุณห่วยใย

ศาสตราจารย์ไทเดแมน กล่าวอีกว่า การล็อกดาวน์ในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 เป็นตัวอย่างที่ดีถึงความจำเป็นในการดูแลตนเองและคนที่คุณห่วงใย

“ฉันคิดว่ามันสำคัญมาก ตัวอย่างเช่นตัวฉัน ซึ่งจะเป็นกังวลกับพ่อแม่ที่มีอายมากซึ่งอยู่ในล็อกดาวน์ หรือจะทำให้แน่ใจว่าพวกเขาได้รับสิ่งที่ต้องการ” ศาสตราจารย์ไทเดแมน กล่าว

“แต่บ่อยครั้งที่คุณไม่รู้ว่าคุณแบกรับความเครียดและความวิตกกังวลค่อนข้างมาก ดังนั้น การเพียงแค่ตรวจสอบตัวเอง และทำให้แน่ใจว่าได้ทำในสิ่งที่ดีกับความเป็นอยู่ที่ดีของคุณนั้นเป็นสิ่งสำคัญ”

สถาบันแบล็กด็อก (The Black Dog Institute) แนะนำเช็กลิสต์ 6 อย่างที่ผู้คนควรตรวจสอบตนเองเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อรักษาสุขภาพจิตของตนเอง ซึ่งรวมถึงความรู้สึก ร่างกาย การนอนหลับ และความคิดของตนเอง

หากคุณกำลังมองหาความช่วยเหลือในภาวะวิกฤต สามารถติดต่อไลฟ์ไลน์ (Lifeline) ที่หมายเลขโทรศัพท์ 13 11 14 บริการโทรกลับ Suicide Call Back Service ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1300 659 467 และ Kids Helpline ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1800 55 1800 (สำหรับเยาวชนอายุไม่เกิน 25 ปี) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการสนับสนุนด้านสุขภาพจิต มีอยู่ที่เว็บไซต์ beyondblue.org.au และ lifeline.org.auและที่หมายเลขโทรศัพท์ 1300 22 4636

Embrace Multicultural Mental Health สนับสนุนผู้คนจากภูมิหลังทางภาษาและวัฒนธรรมที่หลากหลาย


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai
 
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ facebook.com/sbsthai

Share

Published

Updated

Presented by Tinrawat Banyat
Source: SBS

Share this with family and friends


Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand
5 สิ่งที่คุณทำได้ตอนนี้ในการรักษาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ | SBS Thai